นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 เวลา 05.00 น. พบว่า มีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 รวม 7 จังหวัด ได้แก่
1. เชียงราย (ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย)
2. เชียงใหม่ (ตำบลช้างเผือก ตำบลศรีภูมิ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม)
3. ลำปาง (ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ)
4. แม่ฮ่องสอน (ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน)
5. น่าน (ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน)
6. พะเยา (ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา)
7. ตาก (ตำบล แม่ปะ อำเภอแม่สอด)
โดยสถานการณ์ในภาพรวมมีค่า PM2.5 ระหว่าง 51– 130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 ระหว่าง 69 – 167 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 101 – 240 ซึ่งคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีส้ม) โดยมีจังหวัดที่คุณภาพอากาศระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง ) ได้แก่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปางและเขต 15 เชียงราย พร้อมระดมเครื่องจักรกลสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงประสานการปฏิบัติป้องกันและควบคุมปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป