ประเด็นน่าสนใจ
- คาดเริ่มวันนี้ หรือช้าที่สุด 1 เม.ย.
- สาเหตุจากมีกลุ่มคนฝืนคำสั่งมักรวมตัวหน้าร้านดังกล่าว
- จนเป็นเหตุทำให้ไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายเพิ่มได้
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา เพจ ข่าวนนทบุรี ได้มีการเผยแพร่คำสั่ง นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ให้ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกแห่งในจังหวัดนนทบุรี หยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 23.00 น. ถึง 05.00 น.
หลังจากพบว่าในช่วงที่ผ่านมายังมีกลุ่มคนไปรวมตัวกันที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว และอาจส่งผลทำให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้ โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วันนี้ (31 มี.ค. 2563) เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยข้อความทั้งหมดระบุว่า
ที่ผ่านมายังมีกลุ่มบุคคลออกมารวมตัวกันทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ด้วยความอยากลำบาก ในส่วนของจังหวัดนนทบุรี ที่มีผู้ป่วยโควิด- 19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากผู้ป่วยหรือผู้ที่ไปสัมผัสกับบุคคลเสี่ยง ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบทำให้เกิดการแพร่เชื้อกระจายไปทั่ว
ยกตัวอย่างผู้ที่เสียชีวิตในจังหวัดนนทบุรี พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับสนามมวยแต่ไม่ยอมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ หลังเสียชีวิตจึงมาทราบข้อมูล ทำให้ต้องเสียบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำการรักษาไปจำนวนหนึ่ง
ถ้ามีลักษณะแบบนี้หลายรายเราจะสูญเสียบุคคลากรทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ปิดจังหวัดนั้น ต้องเรียนตามตรงว่าจังหวัดนนทบุรี มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพมหานคร จำนวนประชากรแฝงที่ไม่ได้อยู่ในทะเบียนของจังหวัดนนทบุรีกว่า 700,000 คน
นอกจากนี้ยังมีทางเข้า-ออกมากกว่า 20 เส้นทาง ประชากรที่เดินทางเข้า-ออกในแต่ละวันมากว่า 300,000 คน ทำให้ไม่สามารถที่จะปิดเส้นทางได้เนื่องจากจะทำให้ไม่ได้รับความสะดวก เราจึงได้ประชุมที่จะหาแนวทางป้องกันได้อย่างไร
ซึ่งตอนนี้เราได้มีคำสั่งปิดประกาศหลายพื้นที่แล้วก็ตาม จากการตรวจสอบแล้วพบว่ายังประชาชนบางกลุ่มมีพฤติกรรมมารวมกันที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ ทางจังหวัดจึงเตรียมออกคำสั่งให้ร้านสะดวกซื้อทุกแห่งในจังหวัดหยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 23.00 น. ถึง 05.00 น.โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 63 หรืออย่างช้าก็เป็นวันที่ 1 เมษายน 63
สำหรับอีกแนวทางที่เราจะช่วยกันคือเราจะแยกกลุ่มผู้สูงอายุออกมาเพื่อมาดูแลเป็นพิเศษตอนนี้เราใช้บุคคลากรเข้าตรวจสอบพบว่าจำนวนผู้สูงอายุมีเกือบ 200,000 คน เราได้เรียกประชุมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน่วยงานใหญ่สุด 3 หน่วยงาน คือ อบจ.นนทบุรี เทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลนครปากเกร็ด เพื่อจัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับสำหรับผู้สูงอายุทั้งหมดเข้ามาดูแล
นอกจากนี้เรายังได้มีการวางแผนรับมือถ้าหากเกิดวิกฤตเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งเราจะรอให้เกิดไม่ได้ ตอนนี้ได้มีการเตรียมพร้อมที่จะซื้ออุปกรณ์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องฟอกไต ชุดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอต่อความต้องการหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
สำหรับงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจาก นายกอบจ.นนทบุรี มอบเงินช่วยเหลือ 50 ล้านบาท เทศบาลนครนนทบุรี 25 ล้านบาท และเทศบาลนครปากเกร็ด 25 ล้านบาท รวม 100 ล้านบาท