ประเด็นน่าสนใจ
- วันนี้ฝุ่นพิษ PM 2.5 ใน กทม. ที่มีผลต่อสุขภาพ 53 พื้นที่
- จากปริมาณฝุ่นพิษที่วัดได้วันนี้ ทำให้ไทยติด 1 ใน 10 ประเทศที่มลพิษเยอะสุดในโลก
- แนะงดกิจกรรมกลางแจง
เพจ กรมควบคุมมลพิษ ได้มีการเผยแพร่รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อเวลา 7.00 น. ที่ผ่านมา พบว่า
คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตรวจวัดค่าได้ 42 – 77 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม ภาพรวมเพิ่มขึ้นเกือบทุกพื้นที่จากเมื่อวาน (2 ก.พ.)
โดยพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) อาทิ
- แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ,
- ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ,
- แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ,
- แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ,
- แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ,
- แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ,
- ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ,
- ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ,
- ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ,
- ริมถนนดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ,
- แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ,
- แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ,
(ตรวจสอบ สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ทั่วประเทศ ได้ที่นี่ )
ดังนั้นประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ คพ. จะรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูล ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ “ภายใต้แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ” อย่างเร่งด่วน สำหรับประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ได้ทางเว็บไซต์ Air4Thai.com แอปพลิเคชั่น Air4Thai และ bangkokairquality.com
อย่างไรก็ดีจากปริมาณฝุ่นพิษที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้ กทม. ของไทยติด 1 ใน 10 อันดับ เมืองที่คุณภาพอากาศ และมลพิษมากที่สุดในโลก โดยการจัดอันดับครั้งนี้ มาจากเว็บไซต์ airvisual.com ส่วนอันดับต่าง ๆ มีดังนี้
- อันดับ 1. อูลานบาตาร์ มองโกเลีย
- อันดับ 2. เดลี อินเดีย
- อันดับ 3. ลาฮอร์ ปากีสถาน
- อันดับ 4. ธากา บังกลาเทศ
- อันดับ 5. ฮานอย เวียดนาม
- อันดับ 6. กรุงเทพ ไทย
- อันดับ 7. กาฐมาณฑุ เนปาล
- อันดับ 8. มุมไบ อินเดีย
- อันดับ 9. สโกเปีย นอร์ทมาซิโดเนีย
- อันดับ 10. อู่ฮั่น จีน