ประเด็นน่าสนใจ
- เผยสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าโรคคือการตื่นตระหนกของ ปชช. แนะฟังข่าวจากทางการ
- ลั่นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลชีวิตคนไทยในประเทศ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมเตรียมการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยจีนที่ประสบกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งจะพระราชทานความช่วยเหลือไปยังจีนต่อไป
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีระบุว่า ปัญหาการแพร่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มรูปแบบ ยังสามารถหามาตราการป้องกันและรองรับได้อยู่ ซึ่งไทยรับมือได้ดี ได้รับคำชื่นชมจากต่างประเทศ มีประเทศที่จะใช้บทเรียนของไทยในการดำเนินการ
ย้ำรัฐบาลจะดูแลอย่างทั่วถึง ทั้งสภานที่ท่องเที่ยว จุดตรวจสะกัด ช่องทางธรรมชาติในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า โดยนายรัฐมนตรีระบุว่าที่น่ากลัวที่สุดของโรคนี้คือ การตื่นตระหนก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก สื่อต้องเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ ขอทุกคนอย่างสร้างเฟคนิวส์ทั้งเจตนาและไม่เจตนา ขอรอฟังข่าวสารจากทางการ
ส่วนการไปรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่นของจีนนั้น ขณะนี้เตรียมพร้ิมทุกอย่างแล้ว โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป ซึ่งคนไทยที่กลับจากจีนทุกคนจะเข้าสู่กระบวนการกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามมาตราการป้องกันโรค ซึ่งจะต้องผ่านการคัดกรองที่ประเทศจีนก่อนและกลับมาและกลับมาผ่านการคัดกรองที่ประเทศไทยอีก ซึ่งไม่สามารถปล่อยไปได้
นายกรัฐมนตรียังระบุว่าเป็นที่น่าเสียใจที่ยังมีคนบางกลุ่มพยายามขับเคลื่อนทางการเมืองในเรื่องนี้ซึ่งไม่มีประโยชน์ไม่ว่าจะชอบตนหรือไม่ก็ตาม อย่างไรก็ตามที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการดูแลคนไทย และชาวต่างชาติ ที่อยู่ในประเทศไทยให้ดีที่สุด
ยืนยันไม่เคยปิดบังยอดผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ โดยส่วนใหญ่รักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว และขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต เพราะยังสามารถป้องกันได้
นอกจากนี้มีหลายคนบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าหน้ากากแพง แต่กระทรวงพาณิชย์รายงานไม่พบการโก่งราคาเกินจริง โดยในเบื้องต้นรัฐบาลก็มีการแจกจ่ายหน้ากากเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ก็ต้องช่วยเหลือตนเองด้วย ส่วนหนึ่งต้องมีมาตราการที่เหมาะสมในการทิ้งหน้ากากที่ใช้แล้ว
นอกจากนี้รัฐบาลจีนขอบคุณมิตรไมตรีของประเทศไทย มาตราการที่มีประสิทธิภาพ เพราะไทยเป็นผู้นำในการรับมือโรคอุบัติใหม่ ก่อนจบการแถลงข่าวนายกรัฐมนตรีระบุว่าแม้จะรู้สึกเหนื่อยกับการทำงานแต่ก็ไม่ลาออก