ประเด็นน่าสนใจ
- การสละสิทธิ์ ส.ส. เพื่อสู้คดี ขึ้นอยู่กับสภา
- ย้ำการใช้เส้นเพื่อช่วยให้หลุดคดี เป็นเพียงข้อกล่าวหาจากสื่อ ไม่เป็นความจริง
น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า เขาสนฟาร์ม หรือ ฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา ในพื้นที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี มีสถานะเป็นป่า โดยมีการระบุว่า ยังไม่เพิกถอนสภาพเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
จนกว่าจัดสรรกระจายสิทธิที่ดิน ส.ป.ก. แล้วเสร็จ และมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่า ยังไม่ใช่การตัดสินของศาลฎีกา เป็นเพียงการตีความของกฤษฎีกา ตนยืนยันว่าจะสู้คดีจนถึงที่สุด และยืนยันว่าไม่ได้บุกรุกป่าร้อยเปอร์เซ็น
และกฤษฎีกาเป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาทางกฎหมายของรัฐบาล ไม่ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เช่นเดียวกัน ตนมีสิทธิที่จะโต้แย้ง และต่อสู้กับกฤษฎีกา ส่วนจะสละเอกสิทธิ์และเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาตนเองไม่มีปัญหาอะไร และยังไม่รู้ว่าจะถูกดำเนินคดีอะไรบ้าง เพราะทางป่าไม้ และ ส.ป.ก.ยังไม่มีหนังสือส่งถึงตนให้ไปชี้แจง
ส่วนที่กฤษฎีการะบุว่า ทั้งป่าไม้ และ ส.ป.ก. สามารถดำเนินคดีกับตนได้ นั้นเป็นความเห็นของที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายรัฐบาล เพราะยังไม่ทราบว่า ทั้ง ส.ป.ก. และป่าไม้ใครจะเป็นคนดำเนินคดี ซึ่งก็เป็นเพียงคำแนะนำของกฤษฎีกาเท่านั้น
ส่วนหากเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้นัดนำชี้พื้นที่พร้อมไปหรือไม่นั้น น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ตามที่อธิบดีกรมป่าไม้ เคยชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ว่าพื้นที่ 1,700 ไร่ อยู่ตรงไหนบ้าง อธิบดีก็บอกว่าไม่แน่ใจ แต่จะดูจากร่องรอยและก็เป็นสิทธิ์ของตน ไม่สามารถไปบีบบังคับได้
อย่างไรก็ตามนางปารีณายืนยันว่าจะไม่ใช้เส้นสายของรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ เพื่อช่วยให้หน่วยงานรัฐไม่ดำเนินคดีกับตนเองอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา ล้วนเป็นคำกล่าวหาจากสังคม และสื่อมวลชนบางฝ่าย ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง
“ทุกคนก็เห็นว่าดิฉันถูกปฏิบัติเกินกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ชาวบ้านประกาศให้ออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน แต่ของดิฉันถูกประกาศให้ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน ถูกกระทำเยอะมาก หรือเพราะว่าดิฉันชื่อปารีณาหรือไม่ ทุกคนจึงมาทำแบบนี้ “
ปารีณา ไกรคุปต์