กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ข่าวสดวันนี้

กรมอุทยานฯ ชี้แจง ภาพ จนท.-ชาวบ้าน นอนค้างที่เขาศก ยันไม่ใช่ล่าสัตว์

จากกรณีที่เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังปรากฏภาพเจ้าหน้าที่-ชาวบ้าน นำรถยนต์เข้าไปในอุทยานเขาสก อ.พนม  จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพักแรม 1 คืน ในลักษณะผ่อนคลายอิริยาบถ ก่อนทำให้คนตั้งข้อสงสัยว่าคนกลุ่มดังกล่าวเข้าไปล่าสัตว์นั้น ทางโฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยนายสมโภชน์ มณีรัตน์ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า ยืนยันการเข้าไปในพื้นที่อุทยานฯ…

Home / NEWS / กรมอุทยานฯ ชี้แจง ภาพ จนท.-ชาวบ้าน นอนค้างที่เขาศก ยันไม่ใช่ล่าสัตว์

ประเด็นน่าสนใจ

  • เป็นการเข้าไปพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติบริเวณ กม.99 – คลองแปะ หลังพบมีหญ้าสูง
  • ส่วนการค้างแรม เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว เกรงว่าจะได้รับอันตรายหากเดินทางกลับ

จากกรณีที่เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังปรากฏภาพเจ้าหน้าที่-ชาวบ้าน นำรถยนต์เข้าไปในอุทยานเขาสก อ.พนม  จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพักแรม 1 คืน ในลักษณะผ่อนคลายอิริยาบถ ก่อนทำให้คนตั้งข้อสงสัยว่าคนกลุ่มดังกล่าวเข้าไปล่าสัตว์นั้น

ทางโฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยนายสมโภชน์ มณีรัตน์ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า ยืนยันการเข้าไปในพื้นที่อุทยานฯ เขาสก ของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านดังกล่าว ไม่ใช่การเข้าไปพักผ่อนเพื่อล่าสัตว์ แต่เป็นการเข้าไปพัฒนาตัดหญ้า เพื่อให้มีความโล่งเตียนมากขึ้น เพราะเกรงว่านักท่องเที่ยวจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

เนืื่องจาก แต่เดิมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.99 – คลองแปะ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 7.8 กิโลเมตร ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติเขาสก ได้จัดตั้งเป็นจุดสกัดเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า และอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ป้องกันนักท่องเที่ยวพลัดหลง ซึ่งด้วยสภาพปัจจุบันเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.99 – คลองแปะมีสภาพรกทึบ หญ้าขึ้นสูง

ทางเจ้าหน้าที่อำเภอพนม ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน จึงร่วมกันเข้าไปพัฒนาตัดหญ้า เพื่อให้มีความโล่งเตียนมากขึ้น เพราะเกรงว่านักท่องเที่ยวจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

จึงประสานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองศก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านอำเภอพนมร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสกเข้าไปพัฒนาโดยเข้าพัฒนาพื้นที่ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 โดยได้เข้าไปตัดหญ้าที่รกในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

ทั้งนี้เมื่อดำเนินการเสร็จ คณะจึงได้พักแรมบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นเวลาเย็นมากแล้ว เกรงว่าฝนตกประกอบกับเส้นทางลาดชัน รถและคณะทำงานอาจจะออกจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ และเมื่อพักค้างแรม? และในวันรุ่งขึ้นจึงได้พากันออกมาจากพื้นที่ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจร่วมพัฒนาเส้นทางแล้ว

ดังนั้นกรณีดังกล่าว จึงไม่ใช่กลุ่มบุคคลภายนอกที่นำรถยนต์เข้าไปค้างพักแรม หรือล่าสัตว์ป่า ตามที่ได้มีการตั้งข้อสังเกตแต่อย่างใด แต่เป็นกลุ่มพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าไปพัฒนาเส้นทางศึกษา กม.99 – คลองแปะ เพียงเท่านั้น