ประเด็นน่าสนใจ
- พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นวันที่ 2
- บอกเป็นคนเบิร์ดๆ หลัง ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายในเรื่องบุคลิกส่วนตัว
- ลงพื้นที่โคราช หลังเหตุกราดยิง ไม่ได้เอาหน้า รับเสียใจเร่งหาทางป้องกัน
- ย้ำรัฐบาลไม่ได้ปิดข่าวการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เป็นการดำเนินการไปตามขั้นตอน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจง หลังมีสมาชิกอภิปรายในเรื่องส่วนตัว ว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ
ทั้งเรื่องส่วนตัว พฤติกรรม และการพูดจา ซึ่งบางครั้งก็มีการกดดันมากพอสมควรในสื่อโซเชียล ที่ตนเองก็อดทนมาเกือบ 3 วันแล้ว โดยได้ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งนี่คือบุคลิกจริงๆ หากไม่มีใครมายั่วยุมากนัก ก็เป็นคนเบิร์ดๆ แบบนี้
แจงเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสม ลงพื้นที่ในเหตุกราดยิง
ส่วนเรื่องสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา ขอให้เข้าใจว่าสถานการณ์ในตอนนั้นเกิดขึ้นช่วงบ่าย และตนเองติดภารกิจ จึงไม่สามารถเดินทางไปได้ทันที แต่ก็ได้มีการมอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก
และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปเตรียมการปฏิบัติการในระยะที่ 2 ยืนยันว่า เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน
ส่วนจะผิดหรือถูกขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีพยานกว่า 209 คน หากกองทัพบกมีความบกพร่อง ก็ต้องยอมรับ และหามาตรการป้องกันต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ยืนยันไม่ได้ครึกครื้นตามที่ถูกกล่าวหา
ส่วนการเดินไปในวันนั้น ไม่ได้รู้สึกครึกครื้นๆ และยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตอนไหน ไม่ได้เดินทางไปเพื่อเอาหน้า เพราะได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และใช้กำลังตามลำดับ
โดยในช่วงเช้าวันนั้น ทราบว่าจะมีการปฏิบัติการ จึงจำเป็นต้องเดินทางไปควบคุม ในขั้นตอนที่ 3 หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายจะต้องมีการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และใช้กองกำลังป้องกันการก่อการร้ายสากล ที่ได้มีการเตรียมกำลังเหล่านี้ไว้พร้อมแล้วทั้งหมด
แต่เมื่อ ฮ.ขึ้นไปได้ประมาณ 20 นาที ก็ได้รับทราบว่า ทุกอย่างได้ดำเนินการเป็นไปตามแผนที่ได้ขออนุมัติตนเอง แต่ถึง จ.นครราชสีมา จึงได้เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่อยู่ในความเศร้าโศก เสียใจ ในโรงพยาบาล
ซึ่งตนเองรู้สึกเศร้าและเสียใจ แต่เมื่อลงมาข้างล่างแล้ว เป็นอีกสถานการณ์หนึ่ง ที่มีประชาชน จำนวนมากมาต้อนรับโบกมือให้กำลังใจ ให้พยายามแก้ปัญหาให้ชาวโคราช แต่กลับมีการพาดข่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่เศร้า และแสดงกิริยาไม่เหมาะสม จึงขอให้เข้าใจ
ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าเสียใจ โดยรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างสมศักดิ์ศรี และเต็มที่ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จึงขออย่านำประเด็นนี้เหล่านี้มาเป็นประโยชน์ในเรื่องอื่นๆ
รัฐบาลทำจริงในการช่วยแก้ปัญหา ปชช.
ส่วนเรื่องการดูแลหนี้สินของประชาชน ที่จะต้องดูว่าจะมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร รัฐบาลได้มีการออกกฎหมายเพื่อดูแลหนี้นอกระบบ, หนี้ครัวเรือน, ทวงถามหนี้, ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา และการคุ้มครองประชาชนในการทําสัญญาขายฝากที่ดิน ที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนคิดทำกฎหมายดังกล่าวมาก่อน
พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมีการดำเนินอย่างจริงจัง ในการจับกุมผู้กระทำความผิดในการกู้ยืมเงินผิดกฎหมายและได้มีการคืนโฉนดให้กับประชาชน 12 ครั้ง ดำเนินคดีได้ 1,712 คดี และมีลูกหนี้ได้รับทรัพย์สินคืนจำนวน 25,044 ราย
โดยขอให้ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ที่ล่าสุด รัฐบาลได้จัดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานที่ดี
ไม่ได้นอนใจในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 และไม่ได้ปิดกั้นข่าว
ส่วนในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ก็ได้มีการเตรียมการมาล่วงหน้าก่อนประกาศโรคระบาด แต่ไม่อยากให้เป็นการคึกโครมจนเกินไป และมีการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข บุคลากร และโรงพยาบาล
เมื่อมีการประกาศก็ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด และในวันนี้ก็สามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ประมาทได้ พร้อมกับแจงเรื่องการนำเครื่องยินไปลับคนไทยล่าช้านั้น เนื่องจากทางการจีนไม่อนุญาตให้เครื่องบินพาณิชย์บินลง จึงต้องรอประสานงานจนกว่าจะอนุญาต
ส่วนที่หน้ากากอนามัยที่มีการจำหน่ายนั้น นายกรัฐมนตรี แจงว่าเป็นการขอแบ่งเอกชนให้นำมาขาย ส่วนรัฐบาลเองแจกไปกว่า 1 ล้านชิ้น พร้อมกับเตรียมนำหน้ากากผ้าจากชุมชนท้องถิ่นเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งทางโรงพยาบาลราชวิถีได้มีการคิดค้นวัคซีนระยะที่ 1 แต่ต้องมีการทดลองต่อไป ยืนยันว่าไม่ได้มีการปิดบังหรือบิดเบือนตัวเลขผู้ป่วย
ขออย่ากังวลเรื่องยาเสพติด เพราะรัฐบาลเอาจริงในการแก้ปัญหา
ในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่ใช่พื้นที่ฐานการผลิต เป็นเพียงทางผ่านในประเทศปลายทาง โดยได้มีการหารือกับประเทศเพื่อนบ้านทำลายโรงงานผลิตซึ่งเป็นข้อมูลลับที่เจรจาในระดับรัฐบาล และผู้นำทางทหาร ซึ่งมีการเดินหน้าไปตามลำดับ
ซึ่งการผลิตยาบ้าทุกวันนี้ใช้เครื่องผลิตเหมือนยาที่มียอดสูงกว่าล้านเม็ด ทำให้ยอดการจับกุมนั้นสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการทั้งป้องกันและปราบปราม รวมไปถึงฟื้นฟูผู้ติดยา และขณะนี้กำลังเร่งสืบหานายทุน เพื่อยึดทรัพย์
และยังแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวัง รัฐบาลเอาจริงจังในเรื่องนี้ หากมีข้อมูลให้แจ้งมายังตน ซึ่งจะปิดข้อมูลเป็นความลับ และจะเป็นการจับกุมทั้งคณะเพื่อจะได้ไม่ต้องกลัวว่าคณะใดจะไม่จับกุม ติกันมากๆ ไม่มีประโยชน์ ขออย่ากังวล ทุกอย่างกำลังดำเนินการอยู่