ประเด็นน่าสนใจ
- การท้าทายกันครั้งนี้เกิดขึ้นจากการ ที่ ส.ส. อุตรดิตถ์ อยากให้ บิ๊กตู่ พิสูจน์ความจงรักภักดี หลังถวายสัตย์ไม่ครบ
- เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามคำท้า หลังประธานสภาฯ ห้ามทัพทันและให้ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ถอนคำพูด
ผู้สื่ข่าว MThai รายงานว่า ช่วงหนึ่งของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล วันนี้ (27 ก.พ. 62) นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายถึงกรณีการจัดซื้ออาวุธที่เกี่ยวพันไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
โดยช่วงท้ายของการอภิปราย นายศรัณย์วุฒิ ได้กล่าวว่า การถวายสัตย์ไม่ครบ ยิ่งใหญ่กว่า พันท้ายนรสิงห์ และเพื่อพิสูจน์ว่าจงรักภักดีจริงหรือไม่ ก่อนมาอภิปราย คนเตือนว่า อย่ามาอภิปรายเรื่องนี้ ตนได้ทำพินัยกรรมให้กับลูกๆ ถ้าพ่อเป็นอะไรไป พี่น้องต้องรักกัน ดูแลกันให้ดี พ่อจะทำดีให้บ้านเมือง
ขณะเดียวกัน นายสิระ ยกมือประท้วง แล้วกล่าว ว่า “ เรามาอภิปรายไม่ไว้วางใจกัน ไม่ใช่มาสั่งเสีย
จากนั้น นายชวน ได้ตักเตือนอีกครั้งว่า ถ้าเราพูดแสดงว่า เราไม่กลัว ถ้ากลัวแล้วจะมาพูดทำไม เราต่างต้องการประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ มีการตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง ถ้าเราใช้อะไรแรงไป ถ้าเขาตอบแรงมา เราก็ต้องรับได้
นายศรัณย์วุฒิ จึงกล่าวว่า ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ไปวัดพระแก้วมรกต จึงทำให้นายชวนต้องเตือนอีกรอบว่า อย่าไปท้ากัน นายศรัณย์วุฒิ กล่าวต่อว่า ไม่ท้า เมื่อผมได้สั่งลากับ ลูกๆ แล้ว อยากเจอท่านที่หน้าวัดพระแก้ว เตรียมกระสุนไปคนละนัด ยิงกันคนละนัด
นายสิระ กล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมปืน เพราะเห็นปืนของท่านแล้ว ปืนของท่านเล็ก ซึ่งจากเหตุประท้วงดังกล่าว ทำให้บรรยากาศเริ่มกลับมาท้าทายกันอีก
จนประธานสภา ต้องขอให้ถอนคำพูด ทำให้นายศรัณณย์วุฒิกล่าวในตอนสุดท้ายว่า ขอถอน เพราะคนอย่างศรัณย์วุฒิ ไม่เคยกลัวใคร แต่ที่ถอนเพราะเคารพท่านประธาน ไม่ใช่เพราะกลัวใคร
