เหตุโจมตีใกล้สนามบินแบกแดด สังหารผู้นำกองกำลังกึ่งทหารอิรัก-ผู้บัญชาการอิหร่าน

ประเด็นน่าสนใจ

แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงและสมาชิกสภานิติบัญญัติอิรักที่ไม่ประสงค์ออกนามให้ข้อมูลกับสำนักข่าวซินหัวว่า “การโจมตีฐานที่มั่นใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 ราย รวมถึงอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดีส์”

รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่ามีการยิงขีปนาวุธ 3 ลูก ที่มุ่งเป้าไปยังท่าอากาศยานฯ ใส่ยานยนต์ 2 คัน สังหารผู้คนอย่างน้อย 7 ราย รวมถึงสมาชิกกองกำลังอิรัก 5 ราย และ “แขก 2 ราย” ที่นั่งอยู่บในรถยนต์ ซึ่งแหล่งข่าวยืนยันกับสำนักข่าวซินหัวว่าผู้เสียชีวิต 2 ราย ถือสัญชาติ “อิหร่าน”

สถานีโทรทัศน์ของอิรักรายงานว่าโซเลมานี ผู้บัญชีการหน่วยคุดส์ (Quds Force) ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิบัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ด้านสื่อสหรัฐฯ อ้างอิงแหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันการเสียชีวิตของอัล-มูฮันดีส์ และโซเลมานี พร้อมระบุว่าอยู่ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวตน

ขณะเดียวมีรายงานอ้างอิงกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า “กองกำลังสหรัฐฯ เป็นผู้ทำการโจมตีทางอากาศดังกล่าว ซึ่งสังหารโซเลมานี”

สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของอิหร่านรายงานว่าไออาร์จีซีได้เผยแพร่แถลงการณ์ยืนยันการเสียชีวิตของโซเลมานีว่า “คาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการอันมีเกียรติของอิสลาม ตกเป็นเหยื่อการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ในวันนี้”

ในอดีตโซเลมานีเคยกล่าวว่ากองกำลังไออาร์จีซีสามารถรับมือสงครามกับสหรัฐฯ ทุกรูปแบบ

อัล-มูฮันดีส์ เป็นหนึ่งในหัวหน้ากองกำลังกึ่งทหารในอิรักที่ได้รับการสนับสนุนโดยอิหร่าน และได้รับการยอมรับให้เป็นผู้บัญชาการของกองกำลังฮาชด์ชาบีในอิรัก รวมถึงเป็นหัวหน้าของกองทหารฮิซบุลเลาะห์ (Hezbollah) ในอิรัก

หลังการโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุด มิชอัน อัล-จูโบรี (Mish’aan al-Jubouri) สมาชิกสภานิติบัญญัติอิรัก ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอัล-มูฮัมดิส โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า “ผมขอไว้ทุกข์ให้กับพี่ชายผู้ดื้อรั้นและเพื่อนรักผู้ซื่อสัตย์ คนที่ผมคอยเฝ้ามองเขาเอาชนะความตายครั้งแล้วครั้งเล่า”

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังผู้สนับสนุนกองกำลังฮาชด์ชาบีบุกอาณาเขตของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงแบกแดด เมื่อวันอังคาร (31 ธ.ค.) โดยมีต้นตอจากเหตุการณ์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ (29 ธ.ค.) ที่กองกำลังสหรัฐฯ โจมตีฐานที่มั่นแห่งที่ 45 และ 46 ของกองกำลังฮาชด์ชาบี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย และผู้บาดเจ็บ 51 ราย

ก่อนหน้านี้สื่อท้องถิ่นได้เผยแพร่ภาพถ่ายของอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดีส์ (Abu Mahdi al-Muhandis) เข้าร่วมการประท้วง กับคาอิซ อัล-คาซาลี (Qais al-Khazali) หัวหน้ากองทหาร อะซออิบ อะฮ์ ลิลฮักก์ (Asa’ib Ahl al-Haq) ฮาดี อัล อัมรี (Hadi Al Amri) และ หัวหน้ากลุ่มฮาชด์ชาบีด้วย

ที่มา สำนักข่าวซินหัว