ความสัมพันธ์สหรัฐและอิหร่าน สงคราม อิหร่าน

ตึงเครียด!! ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศเอาคืนสหรัฐ-อิสราเอล

อยาโตลาห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศตอบโต้สหรัฐและอิสราเอล หลังนายพล Qassem Soleimani ผู้นำกองทัพคนสำคัญ ถูกลอบสังหารเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเดินทางจากสนามบินนานาชาติอิรัก ในกรุงแบกแดด พร้อมกันนี้ นายคาเมนี ยังยกย่องนายพล…

Home / NEWS / ตึงเครียด!! ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศเอาคืนสหรัฐ-อิสราเอล

ประเด็นน่าสนใจ

  • เกิดการโจมตีทางอากาศใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดดของอิรัก
  • ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศตอบโต้สหรัฐและอิสราเอล
  • สหรัฐฯ ประกาศเร่งชาวอเมริกัน ออกจากอิรักโดยทันที

อยาโตลาห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศตอบโต้สหรัฐและอิสราเอล หลังนายพล Qassem Soleimani ผู้นำกองทัพคนสำคัญ ถูกลอบสังหารเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเดินทางจากสนามบินนานาชาติอิรัก ในกรุงแบกแดด พร้อมกันนี้ นายคาเมนี ยังยกย่องนายพล Soleimani และแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของเขา และประชาชนชาวอิหร่านทุกคน และประกาศเป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติเป็นเวลา 3 วัน

โดยผู้นำสูงสุดอิหร่านกล่าวว่า “อริศัตรูทุกคนจงรับรู้ไว้ว่าการต่อสู้ของจีฮัดจะดำเนินต่อไปด้วยแรงยั่วยุเป็นสองเท่า และชัยชนะกำลังรอคอยนักรบในสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ “

ขณะที่ Mohammad Javad Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ทวีตข้อความว่า การลอบสังหารนายพล Qassem Soleimani เป็นการกระทำที่เป็นภัยร้ายแรง และโง่เขลา

ทั้งนี้ หลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรัก กระทรวงกลาโหมของสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ยอมรับสังหารนายพล Qasem Soleimani ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน โดยระบุว่า ตามแนวทางของประธานาธิบดี กองทัพสหรัฐตัดสินใจปฏิบัติการตอบโต้ครั้งนี้ เพื่อปกป้องพลเมืองชาว อเมริกันในต่างประเทศ ด้วยการสังหารนายพล Qasem Soleimani ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน และระบุว่า นายพล Soleimani คือผู้ที่กำลังวางแผนโจมตีคณะทูตและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐในอิรัก และทั่วภูมิภาค ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อขัดขวางแผนการโจมตีของอิหร่านในอนาคต และสหรัฐจะดำเนินปฏิบัติการที่สำคัญต่อไปเพื่อปกป้องพลเมืองและผลประโยชน์ของสหรัฐไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกก็ตาม

ด้าน ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ได้ทวีตภาพธงชาติสหรัฐ บนทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลหลายคนก็ได้ทวีตข้อความสนับสนุนนการปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย รวมทั้ง อดีตทูตประจำยูเอ็นอย่าง นิกกี ฮาเลย์ ก็ได้ทวีตเห็นด้วยกับการสังหารนายพล Soleimani และภูมิใจในการตัดสินใจที่ถูกต้องของทรัมป์