โพลพบลางร้ายรัฐบาล พลังเงียบลดลง โซเชียลสนใจวิ่งไล่ลุง

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลการศึกษา เรื่อง ลางร้ายรัฐบาล กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการวิจัยผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” 2,827 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม” 1,131 ตัวอย่าง…

Home / NEWS / โพลพบลางร้ายรัฐบาล พลังเงียบลดลง โซเชียลสนใจวิ่งไล่ลุง

ประเด็นน่าสนใจ

  • สาเหตุจากเบื่อรัฐบาลแก้เศรษฐกิจล้มเหลว, เห็นแก่พวกพ้อง
  • ข่าวสารจากฝั่งตรงข้ามรัฐบาล เข้าถึงประชาชนได้มากกว่าข่าวจากรัฐบาล

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลการศึกษา เรื่อง ลางร้ายรัฐบาล กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการวิจัยผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” 2,827 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม” 1,131 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-3 มกราคม 2563 พบว่า

แนวโน้มของกลุ่มพลังเงียบลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญจากช่วงหลังเลือกตั้งที่เคยอยู่สูงถึงร้อยละ 56.1 ในเดือนเมษายน 2562 ตกฮวบลงมาอยู่ที่ร้อยละ 29.4 ในการสำรวจล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นายนพดล กล่าวว่า นี่คือลางร้ายของเสถียรภาพทางการเมืองและของรัฐบาล เพราะกลุ่มพลังเงียบที่เสมือนเป็นกลุ่มสร้างความสมดุลในการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองของประชาชน กำลังกระจายตัวไปอยู่ในกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 36.6 และกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 34.0 ซึ่งมีสัดส่วนไม่แตกต่างกันมากนักอย่างน่าเป็นห่วงในเรื่องของการเผชิญหน้า

และที่น่าพิจารณา คือ เหตุผลที่ประชาชนสนับสนุนรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่เอาฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลโดยเด็ดขาด และได้รับประโยชน์จากมาตรการของรัฐบาล แต่เหตุผลที่ประชาชนไม่สนับสนุนรัฐบาล คือ

เบื่อรัฐบาล แก้เศรษฐกิจล้มเหลว เห็นแก่พวกพ้อง กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม แย่งตำแหน่ง แย่งอำนาจ สืบทอดอำนาจ และประชาชนจำนวนมากมองด้วยว่ามาตรการรัฐบาลไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรมาก ไม่ยั่งยืน แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้

นายนพดล กล่าวด้วยว่า ผลการสำรวจ “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ผ่านระบบ Net Super Poll พบว่า การสื่อสารของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เช่น นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกิจกรรมอื่น ๆ เช่น วิ่งไล่ลุง เป็นต้น เข้าถึงคนในโลกโซเชียลมากถึง 7,278,575 คน

และมีการพูดถึงกลุ่มเคลื่อนไหว วิ่งไล่ลุง 146,962 คน ในขณะที่การสื่อสารของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกิจกรรม วิ่งเพื่อแผ่นดิน เข้าถึงคนในโลกโซเชียลเพียง 589,224 คน และล่าสุดมีคนพูดถึงเพียง 1,410 คน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าฝ่ายการบริหารจัดการข้อมูลและการสื่อสารของรัฐบาลแพ้มาตลอด