ประเด็นน่าสนใจ
- รัฐบาลเตรียมตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
- โดยวันที่ 7 ม.ค. นี้จะพิจารณากรอบโครงสร้าง และแผนการป้องกัน-แก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้เห็นชอบในกรอบรายละเอียดโครงสร้างการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำ รวมทั้งเห็นชอบให้สำนักงบประมาณดำเนินการตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 โดยพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการปฏิบัติงานดังกล่าวตามความจำเป็น
โดย ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ” แก้ปัญหาภัยแล้งในครั้งนี้ จะมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาการอำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำ ทำหน้าที่ประสานงานแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งแผนในการแก้ไขปัญหานั้นจะมีการแบ่งโครงสร้างออกเป็นกลุ่มอำนวยการ กลุ่มคาดการณ์ กลุ่มบริหารจัดการ และกลุ่มแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ โดยดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาในครั้งนี้
น้ำท่วมและภัยแล้งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เพราะไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต แต่ยังรวมถึงภาคการเกษตร อุตสาหกรรม จึงเป็นที่มาของ “ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ” และแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ โดยจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาการ อำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ มีกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ทำหน้าที่ประสานงานการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นไปตาม พรบ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 (ม.24) เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำเป็นการชั่วคราวจนกว่าปัญหาวิกฤติน้ำจะผ่านพ้นไป
วิกฤติภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นและมีแนวโน้มรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเตรียมพร้อมเพื่อรับมืออย่างเป็นระบบ โดยที่ผ่านมามีการดำเนินงานผ่านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อให้การแก้ไขวิกฤติภัยแล้งปีนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันท่วงที ต้องอาศัยการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ารวมถึงการวางแผนการใช้ทรัพยากรน้ำในระยะยาว ซึ่งดำเนินการตามแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่มีเป้าหมาย “ทุกหมู่บ้านมีน้ำสะอาดอุปโภค บริโภค น้ำเพื่อการผลิตมั่นคง ความเสียหายจากอุทกภัยลดลง คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ภายใต้การพัฒนาอย่างสมดุล โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน”
โดยในวันที่ 7 มกราคมนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นชอบกรอบโครงสร้างศูนย์บัญชาการน้ำเฉพาะกิจ และแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ รวมทั้งเห็นชอบให้สำนักงบประมาณดำเนินการตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 โดยพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการปฏิบัติงานดังกล่าวตามความจำเป็น