ข่าวสดวันนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ วิ่งไล่ลุง

ช่อ พรรณิการ์ กังวล วิ่งไล่ลุง ด้าน ธนาธร ไปแน่ หลังเจอหมายเรียกแฟลชม็อบ

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวแสดงความกังวลถึงกรณีการคุกคามการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากกรณีการออกหมายเรียกบุคคลต่างๆ ให้เข้ารับทราบข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และกรณีการคุกคามประชาชนที่จะทำการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ในจังหวัดต่างๆ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีการแจ้งข้อหาบุคคลต่างๆในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมีนายธนาธร…

Home / NEWS / ช่อ พรรณิการ์ กังวล วิ่งไล่ลุง ด้าน ธนาธร ไปแน่ หลังเจอหมายเรียกแฟลชม็อบ

ประเด็นน่าสนใจ

  • โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ยัน ธนาธร จะไปตามหมายเรียกกรณีแฟลชม็อบ 10 ธ.ค.นี้
  • ชี้ไปเพราะเป็นขั้นตอนของกฎหมาย
  • กังวลตำรวจคุกคามกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในต่างจังหวัด
  • จี้ตอบให้ชัดกิจกรรมสงบแบบนี้ขัด รธน. ข้อไหน ?

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวแสดงความกังวลถึงกรณีการคุกคามการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากกรณีการออกหมายเรียกบุคคลต่างๆ ให้เข้ารับทราบข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และกรณีการคุกคามประชาชนที่จะทำการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ในจังหวัดต่างๆ

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีการแจ้งข้อหาบุคคลต่างๆในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งนายไพรัฐโชติก์ จันทรขจร สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ถูกแจ้งข้อหาด้วยนั้น ขอยืนยันว่า

การเข้ารับทราบข้อหาของนายธนาธร เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งสองคนจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ในวันที่ 10 มกราคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน โดยการรับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ เป็นการไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายเท่านั้น

แต่เรายังคงยืนยันว่า สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน ที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560

พร้อมกันนี้ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ยังได้กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนกำลังถูกคุกคาม จากกรณีการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มกราคมนี้ ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรม ทั้ง ๆ ที่เป็นกิจกรรมแบบสงบสันติ เป็นการแสดงออกที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ยืนยันการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เป็นการแสดงออกตามกฎหมาย

แต่กลับถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดพะเยา ที่มีการเรียกผู้จัดกิจกรรมไปพบ และไม่อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรม โดยบอกว่าผู้จัดไม่ได้ขออนุญาตสถานที่หลายสถานที่

รวมทั้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ได้ติดเครื่องหมายชั้นยศแสดงตนสังกัดที่ชัดเจน เรียกผู้จัดกิจกรรมพบถึงสองครั้ง พร้อมมีคำพูดข่มขู่จากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ระบุว่า คงพอรู้นะว่าพื้นที่นี้เป็นของใคร

ในฐานะผู้แทนราษฎร ขอยืนยันว่า พื้นที่สาธารณะทุกแห่งในประเทศไทยเป็นพื้นที่ของประชาชนคนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าของประเทศ และตราบใดที่กิจกรรมที่ทำไม่ได้ขัดต่อกฎหมายและขื่อแปของบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจย่อมไม่มีสิทธิไปคุกคาม และยังต้องอำนวยให้กิจกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นอย่างสะดวกเรียบร้อยและปลอดภัย

ตำรวจมีหน้าที่อำนวยความสะดวก ไม่ใช้มาคุกคามห้ามจัดงานวิ่งไล่ลุง

ดังนั้น ตนต้องขอถามกลับไปยังเจ้าหน้าที่ ว่าเหตุใดในเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คณะกรรมาธิการกฎหมายและสิทธิมนุษยชนเรียกมาชี้แจง บอกว่ากิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นกิจกรรมที่จัดได้ถูกต้องตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปเรียกผู้จัดกิจกรรมในจังหวัดอื่นๆ เข้าพบ ใช้อำนาจใดตามกฎหมายในการเรียกตัว ทำไปเพื่ออะไร ท่านเห็นว่าประชาชนที่จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงทำผิดกฎหมายข้อใด ขอให้ตอบมาให้ชัด

เพราะถ้าตอบไม่ได้ย่อมหมายความว่าเจ้าหน้าที่กำลังใช้อำนาจรัฐคุกคามประชาชน และกระทำการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ