หลังจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้ออกมาเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยเฝ้าติดตามปรากฏการณ์ธรรมชาติ จันทรุปราคาเงามัว ที่เกิดขึ้นในช่วงคืนวันที่ 10 ม.ค. ถึงช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 11 ม.ค.ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 ของไทยนั้น
![](https://img-ha.mthcdn.com/O2bSekpiIwck63_hqfRlxUKRpQU=/news.mthai.com/app/uploads/2020/01/82387395_10157452993436858_2874823882697605120_o-1024x683.jpg)
ล่าสุดได้มีการเผยแพร่ภาพ จันทรุปราคาเงามัว ดังกล่าวออกมาแล้ว พร้อมเผยว่า เงามัวบังมากที่สุดเวลาประมาณ 02:10 น. ตามเวลาในประเทศไทย ดวงจันทร์เต็มดวงปรากฏไม่เว้าแหว่ง มีความสว่างลดลงเพียงเล็กน้อย สังเกตด้วยตาเปล่าได้ยาก
เพราะดวงจันทร์โคจรเข้าไปในเงามัวของโลกบางส่วน ไม่ได้ผ่านเข้าไปในบริเวณเงามืด ดวงจันทร์จึงไม่เว้าแหว่ง ยังคงมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงแต่มีความสว่างในส่วนที่อยู่ในเงามัวลดลงเท่านั้น
![](https://img-ha.mthcdn.com/QR0zzxEuPB08Rvm5Md-jk_2xRMQ=/news.mthai.com/app/uploads/2020/01/81519023_2851302578266671_7469077251640786944_o-724x1024.jpg)
ทั้งนี้หากใช้กล้องโทรทรรศน์หรือการถ่ายภาพเปรียบเทียบความสว่างขณะเกิดปรากฏการณ์ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงความสว่างของดวงจันทร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับในปี 2563 ปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งต่อไปที่สามารถสังเกตเห็นประเทศไทย คือ “จันทรุปราคาเงามัว” วันที่ 6 มิถุนายน และ 30 พฤศจิกายน 2563 ที่จะถึงนี้