นโยบายพรรคการเมือง เลือกตั้ง62

เลือกตั้ง62 : นโยบายพรรคการเมืองสุดแหวก แปลกจริงๆ

“ชี้ชะตาประเทศไทย เลือกตั้ง 2562 กับเว็บไซต์ MThai.com“ เปิดนโยบายแปลกใหม่ จากทุกพรรคการเมืองช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้ ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว สำหรับการเลือกตั้งของไทย ซึ่งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ เป็นวันตัดสินชะตาการเมืองไทยแล้วว่าจะเป็นไปในทิศทางใดในอนาคต…

Home / NEWS / เลือกตั้ง62 : นโยบายพรรคการเมืองสุดแหวก แปลกจริงๆ

“ชี้ชะตาประเทศไทย เลือกตั้ง 2562 กับเว็บไซต์ MThai.com

เปิดนโยบายแปลกใหม่ จากทุกพรรคการเมืองช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้

ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว สำหรับการเลือกตั้งของไทย ซึ่งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ เป็นวันตัดสินชะตาการเมืองไทยแล้วว่าจะเป็นไปในทิศทางใดในอนาคต หลายพรรคการเมืองที่ลงสนามแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งพื้นที่ในสภาต่างงัดนโยบายไม้เด็ดเรียกคะแนนเสียงจากประชาชนกันอย่างคึกคัก วันนี้ทีมข่าว MThai จะพาไปรู้จักกับนโยบายแปลก ๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักจากพรรคต่างๆ ที่นำมาเป็นตัวชูหาเสียงในครั้งนี้กัน

พรรคเพื่อไทย

นโยบาย หวยบำเหน็จ “เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม”

ซื้อหวยไม่หาย ได้คืนทุกบาทพร้อมดอกเบี้ยหลังอายุ 60 ปี เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินฝาก ลงทุนในกองทุนการออมแห่งชาติ เอาดอกผลเป็นรางวัล เพื่อให้เงินหวยกว่า 2.5 แสนล้านบาทต่อปี เป็นเงินฝากพร้อมเกษียณของคนไทย โดยจะทำให้เงินที่ประชาชนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลทุกงวด จากเดิมเงินที่ซื้อหวยจะไปเข้ารัฐแต่นโยบายนี้จะทำให้เงินที่ประชาชนซื้อหวยรัฐบาลกลับคืนสู่กระเป๋าของผู้ซื้อ ซึ่งจะได้รับเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยเมื่อมีอายุ 60 ปี ภายใต้สโลแกน “เปลี่ยนเงินหวย เป็นเงินออม” ขณะที่ประชาชนยังได้ลุ้นรางวัลใหญ่พร้อมเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ทุกงวด ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปี เงินที่ซื้อหวยจะเข้าไปเก็บเป็นกองทุนญาปนกิจ และเป็นมรดกให้ลูกหลาน


พรรคพลังประชารัฐ

นำรถเก่าแลกรถไฟฟ้าได้ส่วนลด 1 แสนบาท

นโยบาย “รถเก่า แลกรถใหม่” ที่เป็นรถไฟฟ้า รับส่วนลดทันที 1 แสนบาท เพื่อสนับสนุนให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ลดมลพิษที่เกิดจากรถยนต์


พรรคอนาคตใหม่

นโยบายให้คนไทยผลิตเหล้า-เบียร์ได้เสรี

ภาพจาก sootinclaimon.wordpress.com

ปลดล็อกอุตสาหกรรมเหล้าเบียร์ จะเป็นหนึ่งในวิธีการยกระดับรายได้เกษตรกร ปัจจุบันการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อขายถูกล็อกด้วยกฎหมาย เช่น การผลิตเบียร์บังคับให้ผู้ผลิตต้องมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาทขึ้นไป และต้องผลิตให้ได้ 10 ล้านลิตรปี หรือการผลิตเหล้าชุมชนต้องใช้เครื่องจักรไม่เกิน 5 แรงม้า หรือต้องมีคนงานไม่เกิน 7 คน

ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้เกิดผู้ประกอบการรายเล็ก และการขยายกิจการทำไม่ได้ ส่งผลให้ตลาดเหล้าเบียร์ถูกผูกขาดโดยกลุ่มทุนใหญ่ไม่กี่กลุ่ม แก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต และยกเลิกกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดผู้ประกอบการรายเล็กในอุตสาหกรรมเหล้าเบียร์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการเกษตร


พรรคภูมิใจไทย

นโยบายทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ อีก 1 วันทำงานที่บ้าน

นโยบายที่ให้ทำงาน 5-6 วันตามปกติ แต่ขอให้มี 1 วัน ทำงานที่บ้าน หรือที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ เพราะด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย หลายตำแหน่งงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ จึงหยิบยกนโยบายนี้นำเสนอขึ้นมาอย่างจริงจัง หากทำได้จะลดปริมาณลดบนท้องถนนได้ถึง 25% ประชาชนไม่ต้องเครียดกับการเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลากับการเดินทาง ซึ่งจะทำงานได้ประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ทำให้กำลังการผลิตจะสูงขึ้น ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพยายามเปลี่ยนแปลงการทำงานของรัฐและเอกชนให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน


พรรคพลังท้องถิ่นไท

นโยบายหนุนงานบันเทิง เป็นอุตสาหกรรมส่งเสริมท่องเที่ยว

นโยบาย ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว นำพาบันเทิงไทยให้โกอินเตอร์ และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายในการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมภาพลักษณ์ให้เมืองไทยเป็นเมืองน่าเที่ยว ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวในเมืองไทย โกยรายได้จากธุรกิจบันเทิงสู่การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เมื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น


พรรคประชาภิวัฒน์

นโยบายจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา

นโยบายนำคุณธรรมและพระพุทธศาสนามาพัฒนาประเทศ มีนโยบาย 1 ตำบล 1 สำนักงานพระสังฆาธิการ จัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระพุทธศาสนา มีงบประมาณดูแลไวยาวัจกรหรือผู้ช่วยเหลือรับใช้พระสงฆ์ ของวัดทุกวัดในประเทศที่มีกว่า 39,000 วัด รวมทั้งดูแลทุกศาสนา

ปรับโครงสร้างหนี้บัตรเครดิตและล้างประวัติระบบเครดิตบูโร


พรรคชาติพัฒนา

นโยบายเด็กไทย 2 ภาษา-ครูเทคโนโลยี

การจัดหลักสูตรให้เด็กไทยมีความทันสมัย เด็กไทยพูดได้ 2 ภาษา โดยไม่ใช่เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษา และด้านการลงทุน รวมถึงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของประเทศ รวมถึงการรู้ถึงการใช้เทคโนโลยีหรือให้ทุนสำหรับครูโดยเฉพาะเพื่อไปเรียนรู้ และกลับมาสอนเด็กไทย เป็นทุนการศึกษาทุกอำเภอ อำเภอละ 1 ล้านบาท นอกจากส่งเสริมทุนให้ครูแล้ว ปัญหาหนี้สะสมของครู ก็ต้องเข้าไปจัดการแก้ปัญหาด้วย เพื่อให้ครูได้มีความพร้อม สอนนักเรียนได้เต็มที่


พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย

นโยบายมีรายได้จากการปลูกป่าทดแทน

เพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ โดยจะทำให้ประชาชนมีรายได้จากการปลูกป่าทดแทนพืชผลทางการเกษตรที่ใช้สารเคมี โดยต้องปลูกต้นไม้ที่อยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม ประเภท ก และ ข จำนวน 171 ชนิด เช่น พะยูง มะค่า ประดู่ เป็นต้น เมื่อครบ 3 ปี จะได้ค่าชดเชยจากการปลูกต้นไม้เพื่อต่อสู้สภาวะโลกร้อน ซึ่งจะมีผลกำไรมากกว่าการปลูกพืชผลการเกษตร โดยจะดำเนินการตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่


พรรคประชานิยม

นโยบายยกเลิกหักเงินเดือนลูกจ้าง-เปลี่ยนงบรถถังไปซื้อรถไถนา

ภาพจาก sme smartonline

ให้นายจ้างจ่ายเงินประกันสังคมแทนลูกจ้างทั้งหมด ยกเลิกหักเงินเดือนลูกจ้างร้อยละ 5 ที่นำส่งประกันสังคมสูงสุด 9,000 บาท/คน/ปี, ค่าแรงขั้นต่ำ 360 บาท/คน/วัน ทั่วประเทศ, หยุดกองทัพซื้ออาวุธ 10 ปี นำเงิน 400,000 ล้านบาท ไปพัฒนาประเทศ, เปลี่ยนงบซื้อรถถัง ไปซื้อรถโดยสารปรับอากาศ 10,000 คัน เปลี่ยนงบซื้อรถถัง ไปซื้อรถไถนา, รถดำนา, รถเกี่ยวนวดข้าวประจำหมู่บ้าน และรถตัดอ้อยให้ชาวนา ชาวไร่ใช้ฟรี


พรรคพลังปวงชนไทย

นโยบายเปิดประเทศไทย 24 ชั่วโมง

เปิดประเทศไทย 24 ชั่วโมง โดยส่งเสริมการค้าการขาย การลุงทุน ตลอด 24 ชั่วโมง ร้านค้า สถานบันเทิงต่าง ๆ จะไม่จำกัดสิทธิในการเปิด-ปิด เพื่อรับนักท่องเที่ยวทุกพื้นที่ โดยเมื่อเปิด 24 ชั่วโมงแล้วจะเกิดการจ้างงานในพื้นที่มีการจ้างงาน 3 กะ ประเทศจะเก็บภาษีได้มากขึ้น


พรรครวมพลังประชาชาติไทย

นโยบายเรียนฟรีจนจบอาชีวะ

จะมีการปฏิรูปการศึกษา เปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการให้เด็ก 80 เปอร์เซ็นต์ได้เรียนอาชีวะจนจบโดยไม่ต้องเสียเงิน ประชาชนต้องเรียนฟรีจนจบอาชีวะ


พรรคมติประชา

นโยบายประชาชนมีส่วนร่วมออกกฎหมายผ่านระบบมือถือ

แนวทางการคงไว้ซึ่งอำนาจให้แก่ประชาชนคนไทย ให้มีความง่ายในการใช้อำนาจของประชาชนผ่านเทคโนโลยีจากอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัย รวดเร็ว พรรคมติประชาจะนำผลของมติดังกล่าวมาใช้โดยทันทีแทนมติพรรค การสร้างเครื่องมือให้สมาชิกพรรคเข้ามาใช้อำนาจได้โดยสะดวก ทำให้มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นหรือตัดสินใจ


พรรคไทรักธรรม

นโยบายเป็นพ่อค้าคนกลางสินค้าต่างๆ 

เป็นพ่อค้าคนกลางในสินค้าต่างๆจนทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้ซื้อในราคาถูกโดยสอนให้ประชาชนรู้จักผลิต รู้จักบริโภค และรู้จักค้าขาย เพื่อปากท้องของประชาชน เมื่อประชาชนอยู่ดีกินดี ทุกๆตำบล ประเทศไทยจะพัฒนาและเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน