หลอกขายล็อตเตอรี่เก่า

แม่ค้าหวยเข้าร้องต่อ DSI ช่วยรับคดีฉ้อโกงล็อตเตอรี่เป็นกรณีพิเศษ

นางสาวศุภิสราภรณ์ กลิ่นหอม แม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล นำหลักฐานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ หลังจากที่ถูกอดีตพนักงานจัดสลาก 2 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลอกให้ร่วมลงทุนพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าจะได้รับส่วนต่าง และสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาพิเศษเพื่อนำไปขายเอากำไร มีผู้เสียหายร่วมลงทุนรวม 16…

Home / NEWS / แม่ค้าหวยเข้าร้องต่อ DSI ช่วยรับคดีฉ้อโกงล็อตเตอรี่เป็นกรณีพิเศษ

ประเด็นน่าสนใจ

  • แม่ค้าหวยเข้าร้องต่อ DSI ช่วยรับคดีฉ้อโกงล็อตเตอรี่เป็นกรณีพิเศษ หลังถูกเจ้าหน้าที่กองสลากหลอกขาย
  • มูลค่าความเสียหายกว่า 636 ล้านบาท

นางสาวศุภิสราภรณ์ กลิ่นหอม แม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล นำหลักฐานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ หลังจากที่ถูกอดีตพนักงานจัดสลาก 2 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลอกให้ร่วมลงทุนพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล

โดยอ้างว่าจะได้รับส่วนต่าง และสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาพิเศษเพื่อนำไปขายเอากำไร มีผู้เสียหายร่วมลงทุนรวม 16 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 636 ล้านบาท

นางสาวศุภิสราภรณ์ เล่าว่า รู้จักกับนายอักษกร กุลกัลยอรกช ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กองสลากฯ ผ่านทางหลานของสามี ว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ระดับสูงของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถนำสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาจำหน่ายได้ในรูปแบบโควต้า

ซึ่งราคาจะถูกกว่าราคาตามท้องตลาด โดยครั้งแรกลงทุนไป 15 ล้านบาท ได้สลากกินแบ่งรัฐบาลมา 2,000 เล่ม หลังจากนั้นนายอักษกรก็ชักชวนให้ลงทุนเพิ่ม โดยครั้งนี้เป็นการลงทุนพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล

และตนเองจะได้รับส่วนต่างของราคาสลากเป็นเงิน และยังได้รับสลากมาขาย เมื่อญาติและคนรู้จักเห็นว่าตนเองได้ผลตอบแทนจริง จึงมาร่วมลงทุนด้วย รวม 16 คน มานานเกือบ 2 ปีแล้ว

จนกระทั่งเมื่องวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 นายอักษกรก็ไม่จ่ายผลตอบแทนตามที่อ้าง เมื่อทวงถามนายอักษกรก็ส่งรูปถ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมากที่อยู่ในโรงพิมพ์มาให้

อ้างว่ากำลังดำเนินการอยู่ พร้อมขอให้อย่าเพิ่งแจ้งความ แต่ตนเองไม่เชื่อและได้นำหลักฐานไปแจ้งความกับกองปราบปราม แต่ผ่านมา 9 เดือนแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า

โดยพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแจ้งว่า กำลังสอบปากคำผู้เสียหายอยู่ จึงได้ตัดสินใจร้องต่อดีเอสไอให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีความเสียหายจำนวนมาก และเกรงว่าผู้ต้องหาจะยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปที่อื่น เพราะก่อนแจ้งความตนเองได้สืบทรัพย์จนพบว่าผู้ต้องหามีเงินในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่แจ้งความกับกองปราบปราม ก็ทราบว่า สภ.เมืองพัทยาได้ควบคุมตัวนายอักษกรตามหมายจับในความผิดเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 มูลค่าความเสียหายกว่า 32 ล้านบาท

และขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดชลบุรี ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 คน ซึ่งเป็นผู้หญิง ทำหน้าที่เปิดบัญชีรับโอนเงินให้กับนายอักษกร ทราบว่ามีตำรวจชั้นสัญญาบัตรพาหลบหนี

ขณะที่ทางดีเอสไอได้ตั้งเลขสืบสวนเพื่อตรวจสอวข้อเท็จจริง และวันนี้ได้เรียกผู้เสียหายมาให้ถ้อยคำ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบขั้นตอนการได้รับโควต้าจากกองสลากว่ามีวิธีการอย่างไร เพื่อเทียบเคียงกับกลโกงของกลุ่มมิจฉาชีพที่นำมาหลอกขาย

แต่ปัจจุบันการรับซื้อโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องรับจากกองสลากฯเท่านั้น รวมถึงดีเอสไอจะตรวจสอบเส้นทางการเงินและการรับผลกำไรของผู้เสียหายที่ผ่านมา ว่าเป็นลักษณะกลุ่มนักลงทุนเก็งกำไรราคาสลากฯ หรือผู้ค้าสลากฯ หรือไม่