ประเด็นน่าสนใจ
- เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ค่าฝุ่นละออง pm 2.5 ในกรุงเทพพุ่งสูง เกินค่ามาตรฐานเกือบทุกเขต
- กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเตือน 5 อาชีพเสี่ยงที่ต้องเผชิญฝุ่นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
- พร้อมแนะวิธีการรับมือ สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในช่วงเวลานี้ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มคนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง 5 กลุ่มที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเตือน อาชีพแรกคือ ตำรวจจราจร 2.คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 3. แม่ค้าแผงลอยริมถนน 4.พนักงานกวาดถนน และสุดท้ายคือคนขับรถตุ๊กตุ๊ก
ทีมข่าวได้ลงไปสำรวจความตื่นตัวของกลุ่มอาชีพเหล่านี้ในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตพื้นที่สีแดง ค่าฝุ่นละออง pm 2.5 พุ่งสูงขึ้นไปแตะเกือบ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบว่าส่วนใหญ่ไม่ตื่นตัวกับสถานการณ์ฝุ่นในรอบนี้มากนัก
อย่างเช่น นายสมชาย พิสารเขต คนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่บอกว่าไม่เคยใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเลย เพราะไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ต้องกังวล ที่ผ่านมาก็ไม่เคยป่วย หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้น เลยไม่ได้ตื่นตัวกับสถานการณ์ฝุ่น
ขณะที่อีกอาชีพหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง นั่นก็คือพนักงานกวาดถนน ทีมข่าวเราได้พูดคุยกับ คุณหทัยชนก เพชรแสงเดือน ที่ต้องทำงานกวาดถนนย่านอนุสาวรีย์ตั้งแต่ตี 5 จนถึงบ่ายโมงของทุกวัน ก็บอกว่ารู้สึกได้ถึงอันตรายของฝุ่นพิษ ที่ส่งผลกระทบกับการหายใจและมีอาการคันตามผิวหนัง แต่ปัญหาก็คือหน้ากากอนามัยที่ทาง กทม.แจกให้เป็นแบบผ้า ทำให้เวลาใส่จะหายใจไม่ออก จึงต้องหาหน้ากากอนามัยมาใส่เอง
อีกอาชีพหนึ่ง คือแม่ค้าขายแผงลอยริมถนน ก็บอกว่าในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการป้องกันตัวเอง หากหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่อันตรายก็ต้องทำ แต่อยากให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหานี้ เพราะเริ่มรู้สึกว่ากระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญฝุ่น กรมอนามัยก็ออกมาย้ำเตือนถึงวิธีการรับมือกับฝุ่นว่าให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อันตราย หากสามารถลดระยะเวลาการอยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้ก็จะดี แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ และสุดท้ายหากสังเกตตัวเองว่าเริ่มเจ็บคอ แสบตา แสบคอ คันตามผิวหนังก็ให้รีบปรึกษาแพทย์