ประเด็นน่าสนใจ
- กระทรวงการคลังพบการทุจริตในโครงการชิมช้อปใช้กระเป๋า 2 กว่า 1 พันร้านค้า
- เบื้องต้นสั่งให้มีการตรวจสอบและชะลอการจ่ายเงินคืนแล้ว
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมงานชิมช้อปใช้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีพบทุจริตการใช้จ่ายเงินในกระเป๋า 2 โดยพบว่า มีร้านค้ากว่า 1 พันแห่ง ที่สงสัยว่าอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชะลอการจ่ายเงินคืนสำหรับยอดซื้อสินค้ากระเป๋าที่ 2 จากร้านค้าดังกล่าวจนกว่าจะมีการตรวจสอบแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ การทุจริตดังกล่าว จะดำเนินการในลักษณะร้านค้าโอนเงินไปให้คนซื้อ เพื่อมาซื้อสินค้าในร้าน ซึ่งหากซื้อสินค้า 5 หมื่นบาท จะได้รับเงินคืนจากภาครัฐ 8,500 บาท และมีข้อตกลงกันว่า เงินที่รับคืนจากรัฐนั้น จะต้องนำมาแบ่งกัน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบยอดการใช้จ่ายผิดปกติของร้านค้าบางแห่ง
โดยมีการซื้อสินค้าสูงผิดปกติ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีการทุจริตหรือไม่
หลังจากระบบตรวจสอบพบการทุจริต ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบซ้ำอีกรอบ ถ้าพบว่าร้านค้าไม่ได้มีการทุจริต กระทรวงการคลังจะคืนเงินสำหรับการใช้จ่ายกระเป๋า 2 ให้ประชาชนที่ใช้จ่ายในร้านดังกล่าว แต่หากตรวจพบการทุจริต ยอดใช้จ่ายดังกล่าว จะไม่สามารถคืนเงินได้ และร้านค้าดังกล่าวจะต้องถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าร่วมกับโครงการรัฐบาลในอนาคต
สำหรับชิมช้อปใช้เฟส 4 นั้น สศค.รับการบ้านมาจากนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ไปคิดว่าจะทำอย่างไร โดยสิ่งที่อยากเห็นคือ ทำอย่างไรให้ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 12.8 ล้านคน มีการใช้เงินในกระเป๋า 2 เพื่อใช้จ่ายต่อไป โดยขณะนี้ยังไม่สรุปว่าจะดำเนินการอย่างไร และยังไม่ได้กำหนดเวลาชัดเจน ซึ่งยังมีหลายเทศกาลที่จะร่วมกระตุ้นการใช้จ่ายกระเป๋า 2 ได้ และยังมีเม็ดเงินที่ยังเหลือสำหรับการใช้จ่ายในโครงการนี้