ชิงทองลพบุรี

ผบ.ตร. แถลงจับกุมผู้ต้องหา ชิงทองลพบุรี / ผู้ต้องหาระบุ ปัญหาส่วนตัว-เงิน ไม่ตั้งใจยิงเด็ก

วันนี้ (23 ม.ค. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องหาในคดีชิงทอง ที่จังหวัดลพบุรี โดยในการแถลงข่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นทีมงานในการทำคดี มาร่วมแถลงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลังจากได้รับการแจ้งเหตุชิงทอง และมีการยิงกันในห้าง ตามที่ปรากฎตามข่าว ในช่วงค่ำของวันที่ 9 ม.ค.…

Home / NEWS / ผบ.ตร. แถลงจับกุมผู้ต้องหา ชิงทองลพบุรี / ผู้ต้องหาระบุ ปัญหาส่วนตัว-เงิน ไม่ตั้งใจยิงเด็ก

วันนี้ (23 ม.ค. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องหาในคดีชิงทอง ที่จังหวัดลพบุรี โดยในการแถลงข่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นทีมงานในการทำคดี มาร่วมแถลงในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งหลังจากได้รับการแจ้งเหตุชิงทอง และมีการยิงกันในห้าง ตามที่ปรากฎตามข่าว ในช่วงค่ำของวันที่ 9 ม.ค. 2563 ทางผบ.ตร. ก็ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อรับผิดชอบในการทำงาน และระดมทีมงานจากทุกๆ ส่วน ทั้งในพื้นที่และทางหน่วยอื่นๆ ในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้

ซึ่งได้มีการแบ่งงาน-ปรับแผนงานต่างๆ ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากเป็นคดีที่ปชช. ให้ความสนใจ รวมถึงสงสัยว่า จะจับคนร้ายได้หรือไม่? ฯลฯ

ซึ่งผ่านไประยะหนึ่ง ได้รับเบาะแสสำคัญ จนนำไปสู่การรวบรวมหลักฐาน และอนุมัติการออกหมายจับได้ หลังจากที่ได้หมายจับเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ก็ได้วางแผนจับกุม ในช่วงสายๆ วานนี้ โดยหน่วยพิเศษของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบื้องหลังการสืบสวนครั้งนี้ ได้มีการประสานงานกันในหลายภาคส่วน จนสามารถนำข้อมูลต่างๆ มาเชื่อมโยง นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ในวันเกิดเหตุ ต้องขอบคุณทางทหาร ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ เหยื่อที่ถูกกระสุนปืนของผู้ต้องหา ซึ่งทำให้ไม่เกิดการสูญเสียไปมากกว่าด้วย และขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจ ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย แม้ว่าจะมีกระแสลบจากบรรดาเกรียนคีย์บอร์ดบ้างก็ตาม

ผู้ต้องหา ระบุแรงจูงใจมาจากปัญหาส่วนตัว-การเงิน

ในการแถลงข่าวในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นำตัวนายประสิทธิชัย หรือกอล์ฟ มาแถลงข่าวแต่อย่างใด โดยใช้ตอบคำถามผ่านทางโทรศัพท์แทน ซึ่งนายประสิทธิชัย ก็ได้กล่าวตอบคำถามในหลายประเด็นอีกด้วย

สรุปคำถาม/คำตอบในการแถลงข่าว

คำถาม : มูลเหตุจูงใจคือ?
ผู้ต้องหา : ปัญหาส่วนตัว ปัญหาทางด้านการเงิน

คำถาม : มีปัญหาส่วนตัว หนี้สิน ทำไมต้องยิงผู้อื่นด้วย?
ผู้ต้องหา : เป็นการยิงเพื่อเปิดทางหนี และให้คนกลัว

คำถาม : วางแผน – คิดล่วงหน้าไหม?
ผู้ต้องหา : มีการคิด วางแผนล่วงหน้า 2-3 วัน

คำถาม : ทำไมถึงต้องยิงซ้ำ?
ผู้ต้องหา : เนื่องจากตอนที่ยิง ถุงมือมันขัดกับไกปืน ทำให้ยิงลั่นออกไป 2 นัด

คำถาม : ทำไมยิงเด็ก?
ผู้ต้องหา : ไม่เห็น ยิง รปภ. เพื่อเปิดทาง กระสุนปืนอาจจะไปโดนเด็ก ยืนยัน ไม่ได้ตั้งใจยิงเด็ก

คำถาม : รู้สึกสำนึกผิดไหม?
ผู้ต้องหา : รู้สึกสำนึกผิด เสียใจกับการกระทำ พอรู้ว่า กระสุนปืนไปโดนเด็ก

คำถาม : ยิงเสร็จแล้ว ทำไมกลับไปใช้ชีวิตสุขสบายตามปรกติ?
ผู้ต้องหา : พยายามทำตัวให้เป็นปรกติ ไม่อยากให้ผิดปรกติ แต่ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวก็เสียใจ

คำถาม : ทำไมถึงใช้ท่อเก็บเสียงปืนด้วย?
ผู้ต้องหา : ต้องการลดเสียงเพื่อไม่ให้มันเสียงดัง และท่อเก็บเสียงสั่งมาจากเพื่อน

คำถาม : หลังเกิดเหตุคิดมอบตัวไหม?
ผู้ต้องหา : มีความคิดอยากมอบตัว แต่ไม่ได้ปรึกษาใคร เพราะทำคนเดียว จึงไม่ได้ปรึกษาใคร โดยคิดไว้ว่า หลังวันที่ 24 จะมอบตัว เนื่องจากมีภารกิจที่ รร. จึงต้องเป็นวันดังกล่าว

คำถาม : ส่วนสาเหตุ ไม่ได้ต้องการฆ่าตัวตายจริงไหม?
ผู้ต้องหา : ยืนยันว่าไม่จริง ไม่ได้เป็นไปตามข่าวลือแต่อย่างใด

คำถาม : ตอนยิงนัดแรกตั้งใจยิงหรือปืนลั่น?
ผู้ต้องหา : ตั้งใจยิงเพื่อเปิดทาง ไม่ให้ใครเข้ามาใกล้เรา แต่กระสุนพลาดไปโดนเด็ก ซึ่งกระสุนที่ยิง รปภ. ไปแล้ว กระสุนพลาดไป

คำถาม : ส่วนสาเหตุ ไม่ได้ต้องการฆ่าตัวตายจริงไหม?
ผู้ต้องหา : ยืนยันว่าไม่จริง ไม่ได้เป็นไปตามข่าวลือแต่อย่างใด

ตำรวจยืนยัน ไม่ใช่แพะ มีหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ยืนยัน

ในคดีชิงทองที่ร้านทองออโรล่า จังหวัดลพบุรี ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่ใช่การจับแพะ เนื่องจากทางตำรวจมีหลักฐานในคดี โดยใช้มีการพิสูจน์ผ่านกระบวนการทางนิติวิทยาฯ เช่น ปืนและกระสุนปืน ได้มีการเทียบปลอกกระสุนปืน รวมแล้ว 11 รายการด้วยกัน ซึ่งยังขาดในส่วนของลำกล้องปืน และ ท่อเก็บเสียง ที่ยังอยู่ในระหว่างการงมค้นหากันอยู่

นอกจากนี้ ยังได้เก็บหลักฐานได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ทองคำของกลาง เสื้อผ้า กระเป๋า ปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมไปถึง รถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุด้วย แต่ไม่ได้มีการใช้ DNA จากเหงื่ออย่างที่เป็นข่าวกันแต่อย่างใด ใช้เบาะแสที่มีผู้ให้ข้อมูลมา ร่วมกับข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการสืบสวน รวบรวม และนำไปสู่การออกหมายจับ

สำหรับในขั้นตอนถัดไป ก็จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง และทำสำนวนเพิ่มเติม ในการดำเนินคดีตามขั้นตอน ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อไป ตามพฤติกรรมการก่อเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป