ข่าวสดวันนี้

พุทธิพงษ์ จับแล้ว 2 โพสต์ข่าวปลอมไวรัวโคโรนา ด้านทนายชี้ไม่รู้ไม่ผิด

รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (30 ม.ค. 2563) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส นำทีมเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 ราย หลังก่อเหตุเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนา…

Home / NEWS / พุทธิพงษ์ จับแล้ว 2 โพสต์ข่าวปลอมไวรัวโคโรนา ด้านทนายชี้ไม่รู้ไม่ผิด

ประเด็นน่าสนใจ

  • ดีอีเอสเอาจริง จับแล้วคนแชร์ข่าวปลอมไวรัสโคโรนา 2 ราย
  • ผู้ต้องสงสัยยอมรับว่าทำจริง
  • การแชร์ข่าวปลอมหากไม่รู้ว่าข่าวนั้นเป็นข่าวเท็จก็จะถอว่าไม่ผิด
  • การแชร์ข่าวปลอมมีโทษคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (30 ม.ค. 2563) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส นำทีมเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 ราย หลังก่อเหตุเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ผ่านทางโซเชียลออนไลน์

ทั้งนี้หลังจากการสอบสวนผู้ก่อเหตุยอมรับว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง โดยอ้างว่า ได้ข่าวสารมาจากเพื่อนเกี่ยวกับพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโลนาที่พัทยา 1 ราย จึงได้มาโพสต์ต่อในทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก แต่มาทราบที่หลังว่าไม่เป็นความจริงจึงได้ลบโพสต์

ส่วนอีกรายที่ถูกจับกุมได้แชร์คลิปวีดีโอที่มีคนล้มลงไปของต่างประเทศ ซึ่งเขาก็ให้การรับสารภาพเช่นกัน เบื้องต้นทาง ปอท. ได้แจ้งข้อหาความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ม.44(2) นำข้อมูลอันเป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้รับความเสียหายกับประชาชน จากนั้นได้คุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้หลังจากข่าวการจับกุมได้เผยแพร่ออกไป ทำให้มีประชาชนหลายรายเกิดความวิตกกังวลใจ ในมาตรการดังกล่าวของรัฐบาล เพราะอาจเข้าข่ายมีความผิด และอาจถูกดำเนินคดีได้หรือไม่นั้น

ในเรื่องนี้ทาง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า การที่จะมีความผิด ต้องนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนการการแชร์หรือการส่งตอข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งถ้ารู้ว่าเป็นข่าวเท็จจึงจะมีความผิด แต่ถ้าไม่รู้ ไม่มีความผิด

ซึ่งการโพสต์การแชร์ข่าวเท็จ ทำให้เกิดความตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นเพื่อความสบายใจควรเลือกส่งต่อข่าวจากหน่วยงานของภาครัฐจะดีกว่า