ประเด็นน่าสนใจ
- ยืนยันการตายไม่ใช่ถูกรถชน แต่เป็นเพราะจมน้ำตาย
- คาดส่วนหนึ่งมาจากการถูกยิงยาสลบ
- ด้านเจ้าของรับเสียใจ เพราะตั้งใจนำมาผสมพันธุ์แต่ต้องมาตายลงเสียก่อน
นายฤทธิ์ คิ้วคชา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมสัตวแพทย์ของซาฟารีเวิลด์ ร่วมแถลงสาเหตุกรณียีราฟตาย 1ตัว หลังจากหลุดจากกรงในระหว่างการขนส่งจากสนามบินสุวรรณภูมิ มาที่สวนสัตว์ จ.ปราจีนบุรี
นายฤทธิ์ กล่าวว่า ทางซาฟารีเวิลด์ มีการนำเข้าสัตว์ป่าจากประเทศแอฟริกา โดยมียีราฟ 78 ตัว และม้าลาย 60 ตัว และเกิดยีราฟหลุดออกจากกรงในระหว่างการขนย้าย บริเวณถนนสาย 304 จำนวน 2 ตัวในวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา
และมีการตามหายีราฟตลอดจนเจอตัว 1 ตัวนำกลับไปได้ ส่วนอีก 1ตัวที่เป็นลูกยีราฟ หลังตามเกือบ 2 วัน พบว่ายีราฟตายในคูน้ำริมถนนสาย 304 มีน้ำลึก 2 เมตร และเมื่อนำซากกลับไปตรวจชันสูตร สัตวแพทย์พบว่ายีราฟจมน้ำตาย
นายฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ในระหว่างการค้นหามีการการยิงยาสลบโดนยีราฟ แต่ไม่โดนแบบเต็ม ๆ เพราะตอนที่ถูกยิงยีราฟยังวิ่งไปไกล และอาจจะหมดแรง และไปตกน้ำในคูข้างถนน เพราะยีราฟว่ายน้ำไม่ได้ ตอนที่ยีราฟหลุดหายไป สิ่งแรกคือความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชนแถวนั้น ทำให้ตัดสินใจใช้ยาสลบ ซึ่งเป็นหลักการทางแพทย์
ทั้งนี้นายสัตวแพทย์ของสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ระบุว่าจากผลชันสูตรพบว่า ปอดของยีราฟมีน้ำจำนวนมาก และไม่มีบาดแผลจากการถูกรถชน คาดว่าสาเหตุมาจากการจมน้ำตายอย่างเดียว
โดยยาสลบมีส่วนทำให้สัตว์ซึมลง แต่การที่ตัวสัตว์ลงไปในลักษณะเป็นคู ยีราฟจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และตายจากการจมน้ำ ตามธรรมชาติจะอยู่ได้ไม่นาน หากตีนถึงน้ำ ยีราฟจะเสียหลัก และจมน้ำในที่สุด
นายฤทธิ์ กล่าวว่า ความเสียหายครั้งนี้ไม่สามารถประเมินค่าได้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งต้องกลับมาทบทวนปัญหาว่ามาจาก 3 ส่วนตั้งแต่ผู้ขาย ผู้ขนส่ง ผู้ซื้อ แต่ไม่คิดว่าต้องไปหาว่าใครผิดหรือจะโทษใคร ซึ่งการนำสัตว์ป่าเข้ามาครั้งนี้ สำหรับยีราฟ ส่วนใหญ่จะอายุ 3-4 ปี ตั้งใจนำมาผสมพันธุ์
ส่วนกรณีคลิปรถชน ยังไม่ชัดว่าชนหรือป่าว แต่เป็นคนละตัว ตัวที่เห็นในคลิปเป็นตัวใหญ่ที่ช่วยเหลือไปได้ และวิ่งบนถนนตรงช่วงที่ยังสว่างอยู่ มองจากมุมกล้องน่าจะแค่ใกล้ชิดเท่านั้น