‘หญิงหน่อย’ ซัดพรรคอ้างคะแนนนิยมอันดับ 1 ระบุเข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 แต่จะขอรับเหรียญทองบนแท่นที่ 1
วันที่ 26 มี.ค. 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่พรรคพลังประชารัฐแถลงเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยอ้างว่าได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง และพรรคใดรวบรวมเสียงข้างมากได้ ก็สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้
โดยเนื้อหาระบุว่า พรรคที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 350 เขต แต่ได้จำนวน ส.ส.น้อยกว่าพรรคที่ลงสมัครแค่ 250 เขต แล้วออกมาบอกว่าตัวเองได้คะแนนนิยมจากคนทั้งประเทศมากกว่าควรจะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ระบอบรัฐสภาไม่ได้คิดแบบนั้น
ประเด็นแรก คือกติกาที่บิดเบี้ยว ตั้งใจออกแบบให้นำระบบส.ส.พึงมีมาคิด เพื่อตัดคะแนนพรรคที่คนนิยม และได้จำนวนส.ส.เขตมากที่สุด เพื่อทำให้ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยที่สุด
นี่คือกับดักอย่างหนึ่งที่จงใจให้เกิดความยากลำบากในการแข่งขัน เพราะไม่ต้องการให้พรรคที่มีคะแนนนิยมซึ่งแสดงผ่านจำนวนเขตที่มากเป็นพรรคที่แข็งแรงเกินไป
ประเด็นที่ 2 คือการโหวตในสภา เมื่อคิดจาก ส.ส. 1 คน มีคะแนนโหวตเท่ากัน 1 คะแนน เสียงข้างมากในสภาจึงมีค่าเท่ากับ ส.ส.ที่โหวตเป็นจำนวนมากกว่าอีกฝ่าย ไม่ใช่การคิดคะแนนจาก ส.ส.คนไหนได้คะแนนเลือกตั้งมาเท่าไหร่แล้วจะกลายเป็นเสียงข้างมากนะคะ
แข่งขันในสนามเดียวกัน ออกแบบกติกาเอาเปรียบคนอื่นมากมายมหาศาลตั้งแต่จุดสตาร์ทยันเส้นชัย แต่จำนวน ส.ส. ก็ยังแพ้อยู่ดี เข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 แต่จะขอรับเหรียญทองบนแท่นที่ 1 แบบนี้ก็ได้เหรอ
สำหรับผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ณ เวลา 10.00 น. วันที่ 25 มี.ค. 2562
1.พลังประชารัฐ 7,938,893 คะแนน
2. เพื่อไทย 7,422,600 คะแนน
3.อนาคตใหม่ 5,870,093 คะแนน
4.ประชาธิปัตย์ 3,704,284 คะแนน
5.ภูมิใจไทย 3,512,151 คะแนน
จำนวน ส.ส. เขตแต่ละพรรคอย่างไม่เป็นทางการ
1.พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส. 137 คน
2.พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. 97 คน
3.พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส. 39 คน
4.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส. 33 คน
5.พรรคอนาคตใหม่ ได้ ส.ส. 30 คน
6.พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ส.ส. 6 คน
7.พรรคประชาชาติ ได้ ส.ส. 6 คน
8.พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้ ส.ส. 1 คน
9.พรรคชาติพัฒนา ได้ ส.ส. 1 คน