ศรีสุวรรณบุก กกต.ค้านใช้อำนาจขัดต่อกฎหมายกรณีวินิจฉัยบัตรจากนิวซีแลนด์เป็นบัตรเสีย
วันนี้ เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายังสำนักงาน กกต.เพื่อยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ กกต. โดยแถลงว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ให้บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์ทั้ง 1,542 ใบเป็น “บัตรเลีย”
เนื่องจากจัดส่งไม่ทันเวลานับคะแนน พร้อมกับบัตรเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 โดยอ้างอิง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 มาตรา 114 ที่ว่าในกรณีที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง หรือการออกเสียงคะแนนนอกราชอาณาจักรที่ใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ความดังทราบแล้วนั้น
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย คัดค้านติดังกล่าวเนื่องจากไม่สอดคล้องกับข้อกฎหมายตามมาตรา 114 แห่งพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 แต่อย่างใด เนื่องจากการที่คณะกรรมการ กกต.จะวินิจฉัยว่ากรณีดังกล่าวเป็น “บัตรเสีย” ตามมาตราดังกล่าวได้จะต้องเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการออกเสียงลงคะแนนนอกราชอาณาจักรดังกล่าว มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือโดยมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกิดจากการกระทำที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมเท่านั้น
แต่กรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์นั้น เป็นกรณีที่สถานทูตไทย ณ ประเทศนิวซีแลนด์ส่งบัตรเลือกตั้งมายังประเทศไทยแล้วในวันที่ 23 มี.ค.62 ก่อนวันเลือกตั้ง หากแต่เป็นเพราะพนักงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและหรือเจ้าหน้าที่รัฐอื่นที่เกี่ยวข้องมิได้ไปดำเนินการรับบัตรดังกล่าวจากสายการบินที่จัดส่งมาให้เพื่อจัดส่งไปยังสถานที่นับคะแนนต่างๆตามเขตเลือกตั้งในเวลาก่อนนับคะแนน
จึงมิใช่เป็นกรณีที่จะอ้างเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกิดจากการกระทำที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม การที่คณะกรรมการ กกต. มีมติว่าบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์ทั้ง 1,542 ใบเป็น “บัตรเลีย” เนื่องจากจัดส่งไม่ทันเวลานับคะแนน พร้อมกับบัตรเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 โดยอ้างอิง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.2561 ม.114 ถือได้ว่า “เป็นการทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย” โดยแท้ และอาจถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจไปในทางที่ “จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือทุจริตต่อหน้าที่” โดยชัดแจ้ง
ซึ่งหากคณะกรรมการ กกต. ยืนยันในคำวินิจฉัยเดิมแล้ว สมาคมฯได้ขอให้คณะกรรมการ กกต. ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิดบุคคลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่เป็นเหตุหรือตัวการร่วมในการทำให้คณะกรรมการ กกต. ใช้เป็นหลักฐานวินิจฉัย ที่เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง หรือการออกเสียงคะแนนนอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์ มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ กกต.ต่อไปด้วย
อนึ่ง หากคณะกรรมการ กกต. ยังคงยืนยันในคำวินิจฉัยเดิม สมาคมฯจะดำเนินการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ได้ 2 หมื่นรายชื่อเพื่อยื่นถอดถอนและเอาผิดคณะกรรมการ กกต. ทั้ง 7 คน และขอเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศที่เห็นว่าคณะกรรมการ กกต.จัดการเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ขัดต่อกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ได้ออกมาแสดงพลังกันมาร่วมเข้าชื่อถอดถอนในครั้งนี้ด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด