ประชาธิปัตย์ จี้ กกต. ทบทวนมติบัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์ เผย ไม่สมเหตุและผลรวมถึงขัดต่อหลักกฎหมาย
วันที่ 27 มี.ค.2562 นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ แถลงต่อกรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ส่งมาจากประเทศนิวซีแลนด์ เป็นจำนวน 1,542 ใบ ซึ่งประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ชี้แจงวานนี้ว่าบัตรจำนวนดังกล่าว กกต. ลงมติว่าไม่สามารถนำบัตรเลือกตั้งดังกล่าวมานับคะแนนได้
เหตุเพราะเป็นบัตรเลือกตั้งที่ส่งมาถึงสถานที่นับคะแนนภายหลังจากที่เริ่มนับคะแนนแล้วว่า ในเรื่องนี้ยืนยันว่าตนไม่ทราบว่า 1,542 คะแนนนี้ พี่น้องประชาชนนอกราชอาณาจักรจะเลือกใคร เลือกพรรคไหน แต่คิดว่า 1 เสียงของพี่น้องประชาชน เป็น 1 เสียงที่มีค่าที่จะต้องออกมาปกป้องสิทธิของพี่น้องประชาชนที่อยู่นอกราชอาณาจักร
นายราเมศกล่าวว่า จากมติของ กกต. ไม่สมด้วยเหตุและผล และขัดต่อหลักกฎหมาย พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่หลักกฎหมายที่มาสนับสนุนเรื่องนี้ กกต. อ้างมาตรา 114 แต่ กกต. กลับไม่ได้วินิจฉัยให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย โดย มาตรา 114 กกต. อ่านไม่หมด
ซึ่งสาระสำคัญของมาตรานี้ โดยเฉพาะกรณีที่บัตรเลือกตั้งจากต่างประเทศมาถึงล่าช้า กกต. จะไม่นับบัตรนั้น หรือจะตีเป็นบัตรเสียได้ก็ต่อเมื่อบัตรเลือกตั้งเหล่านั้นเกิดขึ้นจากความไม่สุจริต ความไม่เป็นธรรม หรือที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีความไม่สุจริต มีความไม่เที่ยงธรรม
แต่ ณ ขณะนี้จากข้อมูลหลายด้านยังไม่มีความชัดเจน จน กกต. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบภายใน 7 วัน แต่กลับมีมติก่อนแบบนี้หมายความว่าอย่างไร และบางข่าวมีการรายงานว่าเป็นความผิดพลาดของ กกต. อีกด้วย ซึ่งหากเป็นความผิดพลาดของ กกต. แล้ว กกต. จะมาตัดสิทธิ์ 1,542 เสียงนี้ได้อย่างไร
นอกจากนี้นายราเมศ ยังกล่าวถึงองค์ประกอบสำคัญของมาตรา 114 อีกด้วยว่า การส่งบัตรเลือกตั้งที่อยู่นอกราชอาณาจักร มาถึงสถานที่นับคะแนนของเขตเลือกตั้ง หลังจากที่มีการนับคะแนนแล้ว กกต. จะไม่นับคะแนนนั้น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเกิดความไม่สุจริตเกิดขึ้น กฎหมายเขียนไว้ชัดว่า โดยมีเหตุสมควรเชื่อได้ว่าเกิดจากการกระทำที่ไม่สุจริต หรือไม่เที่ยงธรรม
กฎหมาย มาตรา 114 นี้ระบุไว้ชัดมาก เพราะฉะนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการเลือกตั้งใช้อำนาจที่มีทบทวนมติดังกล่าวเสีย โดยให้คำนึงถึงสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนที่อยู่นอกราชอาณาจักร