ฝนตกในบางพื้นที่ภาคเหนือ มีส่วนช่วยลดความรุนแรงของภาวะหมอกควัน แต่หลายจังหวัดยังคงมีฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากไฟป่าประเทศเพื่อนบ้านที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง
วานนี้(27 มี.ค.) ภาคเหนือตอนบนแม้ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาจะมีฝนตกในหลายพื้นที่ แต่ขณะนี้ยังมี 6 จังหวัดที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ประกอบด้วย
เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน และจังหวัดพะเยา หนักสุดคือจังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 ได้สูงถึง 216 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงมีหมอกควันปกคลุมหนาแน่น โดยปัจจัยหลักมาจากทั้งการเผาภายในพื้นที่ และการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้เกิดหมอกควันสะสมในพื้นที่ ประกอบกับเชียงใหม่พื้นที่เป็นแอ่งกระทะ และปัจจัยเรื่องลม ส่งผลให้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศเชียงใหม่วานนี้อยู่ในระดับ “มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก” โดยจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศที่มีค่าสูงสุด อยู่ที่จุด รพ. สะเมิง วัดค่า PM2.5 ได้สูงถึง 435.82 ขณะที่เว็บไซต์ AirVisual ได้จับอันดับค่า World AQI Ranking ระบุ จังหวัดเชียงใหม่ติดอันดับ 2 ของโลก โดยค่า AQI อยู่ที่ 189 อาคารเอสเอ็มอี ภายในศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ ถูกใช้เป็นพื้นที่เซฟตี้โซน
โดยเปิดเครื่องปรับอากาศที่มีระบบฟอกอากาศในตัว และติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพิ่มอีก 3 เครื่อง เพื่อบริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน ให้เข้าไปพักผ่อนรับอากาศบริสุทธิ์ได้ตลอดทั้งวัน จนกว่าสถานการณ์หมอกควันจะเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหาหมอกควันค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายสัปดาห์ ทำให้ประชาชนป่วยจำนวนมาก ส่วนโรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดคลินิกเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคลินิกมลพิษเฉพาะ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน เพราะขณะนี้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษากว่าวันละ 2 พันคน