‘อนาคตใหม่’ ขอบคุณ กกต.ยอมเปิดผลคะแนนแล้ว ย้ำเรียกร้องพรรคที่เคยรับปากประชาชนร่วมปิดสวิตช์ สว.ต้านสืบทอดอำนาจ
นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการนับคะแนน 100 เปอเซนต์ นับเป็นเวลา 94 ชั่วโมงหลังจากปิดหีบ โดยนางสาวพรรณิการ์ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการ กกต.ที่ยอมเปิดเผยผลคะแนนแล้วในที่สุด หลังจากถูกสังคมตั้งคำถามถึงความผิดปกติ และสาเหตุที่ไม่ยอมเปิดเผยผลการเลือกตั้งเสียที
ส่วนกรณีกระแสข่าวเกี่ยวกับใบเหลือง-ใบแดงนั้น นางสาวพรรณิการ์ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ยังคงเป็นพรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ ขอยืนยันว่าไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และมีความระมัดระวังที่จะไม่ทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งมาตลอด ทางพรรคจึงมีความมั่นใจอย่างสูงว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผลคะแนนที่ออกมา และแม้ว่าจะต้องถูก กกต.แจกใบอะไรก็ตามจนต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ทางพรรคก็พร้อมที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้งทุกที่
นอกจากนี้ นางสาวพรรณิการ์ยังได้ย้ำถึงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ร่วมแถลงกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเมื่องานนี้ โดยกล่าวเรียกร้องไปถึงพรรคการเมืองทุกพรรค ว่าขณะนี้ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว ขอให้ทุกพรรคการเมืองที่เคยรับปากประชาชนไว้ ว่าจะไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจของ คสช. ให้มาร่วมกันกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเพื่อปิดสวิตช์ สว.ต่อไป
ทั้งนี้ นางสาวพรรณิการ์ยังย้ำด้วยว่าการเข้าร่วมจุดยืนกับฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ได้หมายถึงการต้องร่วมรัฐบาลกัน ซึ่งทุกพรรคสามารถร่วมมือกันได้ ในการยกมือโหวตให้แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีที่เสนอโดยพรรคที่ได้รับจำนวนที่นั่งสูงสุด เพื่อปิดสวิตช์ สว.และหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.เป็นเป้าหมายร่วมกัน
นางสาวพรรณิการ์ยังได้เรียกร้องไปถึง กกต.ต่ออีก ว่าแม้จะมีการเปิดผลการนับคะแนนออกมาแล้ว แต่ตัวเลขยังมีความสับสนไม่ตรงกันในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะตัวเลขของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นมากว่า 5 ล้านคน ทำไมจึงไม่ตรงกับตัวเลขของผู้มาใช้สิทธิที่เคยแถลงในตอนแรก จึงขอให้ กกต.ชี้แจงอธิบายให้ชัดเจนด้วย
นอกจากนี้ ยังขอเรียกร้องให้ กกต.เปิดข้อมูลทั้งหมดทางออนไลน์อย่างละเอียด เพื่อให้ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบได้ เพราะแม้ กกต.จะเปิดข้อมูลให้ดูได้แล้ว แต่เป็นเพียงการเปิดให้ประชาชนเดินไปขอดูคะแนนที่ กกต.จังหวัด ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่า กกต.มีหน้าที่ต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึงข้อมูล ไม่ใช่การผลักภาระดังกล่าวมาให้กับประชาชน
