ข่าวจังหวัดยะลา ข่าวสดวันนี้ ศาลชั้นต้น เผารถทัวร์

ศาลตัดสินจำคุก คนร้ายก่อเหตุเผารถทัวร์ที่ยะลา เมื่อปี 60

ศาลจังหวัดยะลา พิพากษาจำคุกคนร้ายเผารถทัวร์ในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อปี 60 รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดยะลาได้พิจารณาคดี เหตุคนร้ายเผารถทัวร์สาย กรุงเทพฯ –…

Home / NEWS / ศาลตัดสินจำคุก คนร้ายก่อเหตุเผารถทัวร์ที่ยะลา เมื่อปี 60

ศาลจังหวัดยะลา พิพากษาจำคุกคนร้ายเผารถทัวร์ในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อปี 60

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดยะลาได้พิจารณาคดี เหตุคนร้ายเผารถทัวร์สาย กรุงเทพฯ – เบตง   โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 60 เวลาประมาณ 14.20 น. คนร้ายประมาณ 10 – 15 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร มีอาวุธปืน ทำการลอบวางเพลิงรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ของบริษัท สยามเดินรถ หมายเลขทะเบียน 6627 จนได้รับความเสียหาย

บนถนนสาย 410 (บันนังสตา – เบตง) เขตรอยต่อ หมู่ 5 บ้านกาโสด ต.บันนังสตา กับบ้านคลองน้ำขุ่น ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา นอกจากนั้นยังมีเหตุเผายางรถยนต์ ตัดต้นไม้ขวางถนน และโปรยตะปูเรือใบ ในระหว่างเส้นทางด้วย ซึ่งจำเลยคดีได้แก่  นายมาหะมะ มะตาเห พร้อมพวกรวม 12 คน

ทั้งนี้จากการพิจารณาจากพยานและหลักฐาน ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งตัดสินจำคุกจำเลย 8 ราย และศาลได้ยกฟ้อง 4 ราย เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ  ดังนี้

จำเลยที่ 1 นายอะหะมะ มะตาเห, จำเลยที่ 2 นายอายูซา มะแซะ และจำเลยที่ 3 นายลุกมัน ซาเด็ง ความผิดฐานก่อการร้ายและร่วมกันมีปืนที่ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลสั่งลงโทษ “จำคุก 11 ปี 16 เดือน”

จำเลยที่ 4 นายฮำดี มาแระ จำเลยที่ 6 นายหามะ ซง ความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนการก่อการร้าย ศาลสั่งลงโทษ “จำคุก 10 ปี”

จำเลยที่ 9 นายอัสลัน กะโด จำเลยที่ 10 นายบัสรี เจ๊ะมะ จำเลยที่ 11 นายอีดาบาตุลลอฮ หะยีเจ๊ะเต๊ะ ความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนการวางเพลิง เผาทรัพย์ ศาลสั่งลงโทษ “จำคุก 2 ปี”

ส่วนจำเลยที่ 5 นายฮากิมิง เจ๊ะสมอเจ๊ะ จำเลยที่ 7 นายอับดุลนาเสะ บาระตายะ จำเลยที่ 8 นายมารูดิง อีแต และจำเลยที่ 11 นายมูฮัมหมัดกัสฟี มะตาเฮ ศาลมีคำสั่ง “ยกฟ้อง” เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

การต่อสู้คดีความยังไม่จบสิ้นเป็นเพียงคำตัดสินของศาลชั้นต้น ซึ่งทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลยจะมีการต่อสู้กันต่อในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมผู้ที่กระทำความผิดนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และให้ความเป็นธรรม ความเสมอภาค ส่วนผู้ที่กระทำความผิดจะต้องรับโทษที่ตนเองก่อขึ้นส่วนผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิดเมื่อศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานแล้วจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระกลับคืนสู่สังคมต่อไป