กงสุลเตือนคนไทยระวัง หลังบรูไนเตรียมบังคับใช้กฎหมาย ซารีอะห์ ตั้งแต่ 3 เม.ย.นี้ ป้องกันการกระทำความผิด จนถูกลงโทษหนัก ถูกปาหินจนตาย-แขวนคอ
สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ขณะนี้ทางการของบรูไนได้เห็นชอบนำกฎหมายซารีอะห์ หรือกฎหมายอิสลาม (Criminal Code Order) มาใช้ในการลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมายในประเทศแล้ว หลังจากประกาศไว้เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โดยกฎหมายนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาหลายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน อาทิ คณะประชุมเพื่อสิทธิมนุษยชนในการส่งเสริมสิทธิความหลากหลายทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ และการแสดงออกทางเพศ หรือ ASEAN SOGIE Caucus และ องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) จะออกมาโจมตีบรูไน และไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว
เพราะกฎหมายซารีอะห์ เป็นกฎหมายทางศีลธรรมของศาสนาอิสลาม ที่ควบคุมความประพฤติคนทั้งที่เป็นการกระทำต่อสาธารณะ และความประพฤติส่วนตัว เนื้อหาของกฎหมายได้กำหนดโทษต่อผู้ทำผิดกฎหมายไว้รุนแรง อาทิ การปรับ การจำคุก การเฆี่ยนตี การตัดมือและอวัยวะอื่นๆ การขว้างปาหินใส่ผู้กระทำผิด การแขวนคอ หากกระทำความผิดอันได้แก่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การหมิ่นศาสนา การลักทรัพย์ การข่มขืน การผิดรักกับคนเพศเดียวกัน เป็นต้น
ปัจจุบันประเทศที่ใช้กฎหมายซารีอะฮ์อย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่ อัฟกานิสถาน อิหร่าน อิรัก มัลดีฟส์ ปากีสถาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย เยเมน มอริเตเนีย และซูดาน ก่อนที่บรูไนจะเป็นประเทศมุสลิมล่าสุดที่ประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว และถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้กฎหมายออกมาบังคับใช้ควบคุมประชาชนในประเทศ
กฎหมายซารีอะฮ์ นอกจากจะยังควบคุมความประพฤติตามจารีตประเพณีของชาวมุสลิมแล้ว ยังรวมไปถึงรูปแบบการปกครอง สังคมและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้วย