เสียงสะท้อนสู่ออนไลน์ ‘พริตตี้น่ากลัวมากกว่าสวย’ ไม่ขาว นมไม่ใหญ่ ไม่ได้งาน !!

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับมหกรรมงานยานยนต์ประจำปี กับงาน ‘Motor Show 2016’ซึ่งสีสันที่โดดเด่นไม่แพ้รถที่นำมาโชว์ในงาน เห็นทีจะหนีไม่พ้น พริตตี้สาวสวยจากค่ายรถยนต์ ที่ขนกันมายืนตระหง่าในงาน เพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมที่บูทได้อย่างคับคั่ง แต่กระนั้นได้มีการตั้งคำถามผ่านเว็บไซต์ ‘พันทิป’ ซึ่งเป็นประเด็นดุเดือดในโลกออนไลน์ในรอบวันที่ผ่านมา ระบุหัวข้อว่า ‘พริตตี้เดี๋ยวนี้น่ากลัวมากกว่าสวย ข้างบนก็ชัดว่าไปทำมาใหญ่จนน่ากลัว…

Home / NEWS / เสียงสะท้อนสู่ออนไลน์ ‘พริตตี้น่ากลัวมากกว่าสวย’ ไม่ขาว นมไม่ใหญ่ ไม่ได้งาน !!

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับมหกรรมงานยานยนต์ประจำปี กับงาน ‘Motor Show 2016’ซึ่งสีสันที่โดดเด่นไม่แพ้รถที่นำมาโชว์ในงาน เห็นทีจะหนีไม่พ้น พริตตี้สาวสวยจากค่ายรถยนต์ ที่ขนกันมายืนตระหง่าในงาน เพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมที่บูทได้อย่างคับคั่ง

แต่กระนั้นได้มีการตั้งคำถามผ่านเว็บไซต์ ‘พันทิป’ ซึ่งเป็นประเด็นดุเดือดในโลกออนไลน์ในรอบวันที่ผ่านมา ระบุหัวข้อว่า ‘พริตตี้เดี๋ยวนี้น่ากลัวมากกว่าสวย ข้างบนก็ชัดว่าไปทำมาใหญ่จนน่ากลัว หน้าก็ไปทำมาเห็นชัด อยากได้แบบสาวไทยปกติเดิมก็สวยดี?’ ซึ่งกระทู้ดังกล่าวมีการใช้คำที่รุนแรงและดุเดือด เช่น ‘ทาสทางเพศ’ ,ฟาร์มนม และ ‘พวกนมตู้ม ๆ แบบของไทยนี่ไปสมัครดารา AV เค้ายังไม่เอาเลย’ พร้อมทั้งมีประโยคเด็ด

‘ขายรถก็ต้องเลือกหน้าตาสไตล์ Transformer น้องเขาต้องดูเป็นโหมดโลหะหรือพลาสติก อีกหน่อยอาจต้องหาแปลงร่างเป็นรถได้ด้วยเลย ‘

Pretty Thumb 2

ทำให้กระทู้นี้ถูกเผยแพร่ต่อออกไปอย่างกว้างขวาง สมาชิกบางส่วนได้เข้ามาอธิบายว่า รูปร่างหน้าตาเช่นนี้ เป็นที่ต้องการในท้องตลาด และวงการพริตตี้ ค่ายรถส่วนมาก จะเลือกพริตตี้ที่มีคุณสมบัติเข้ากับตัวสินค้า บางค่ายต้องการลุคนางแบบ หน้าฝรั่งอินเตอร์ ส่วนรถญี่ปุ่นต้องการสาวตัวเล็กน่ารัก บางค่ายก็เป็นศูนย์รวมของ นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังระดับ Top10 ของประเทศไทย บางค่ายลงทุนจ้างดารามาเพื่อดึงดูดคนเลยก็มี

แต่พริตตี้ที่จะเห็นได้ในงาน Motor Show ในยุคหลัง หลายค่ายจะเลือกผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ ผิวขาว สูง ซึ่งจะมีการกำหนดส่วนสูงในงาน มีมาตรฐานอยู่ที่ 160-165 ขึ้นไป แล้วแต่ผู้จัด บางค่ายพริตตี้ต้องมีความสามารถ พูดได้มากกว่า 1-2 ภาษา อาจมีภาษาที่ 3 พ่วงด้วย

พริตตี้ส่วนใหญ่ผ่านการศัลยกรรมทั้งใบหน้า หน้าอก ฉีดผิว ก่อนการคัดเลือกเข้าไปยืนคู่รถค่าย ต่าง ๆ ก่อนจะเข้าไปทำงานนี้ได้ ต้องผ่านการคัดเลือกหลายด่าน ถ้ามีที่ยืนในงานอยู่แล้ว ก็อาจจะมีการซื้อตัวข้ามค่าย ดังนั้นในวงการพริตตี้ การได้ขึ้นไปยืนเกาะรถในงานมอเตอร์โชว์ จึงถือเป็นเกียรติประวัติในการทำงานในวงการนี้ เพราะต้องทั้งสวยและเจ๋งจริง ถึงจะเข้าไปยืนได้

เมื่อฟังเสียงจากทางฝั่งโลกออนไลน์ ที่ได้มีการตั้งกระทู้ถามแล้ว วันนี้ทางทีมข่าว MThai News ได้มีการติดต่อไปยัง นาเดีย พริตตี้สาวสวย ซึ่งเธอเองได้เคยเข้าไปทำงานในงานมอเตอร์โชว์มาแล้ว พ่วงตำแหน่ง พริตตี้เรซควีน ได้พูดถึงประเด็นเรื่องการทำศัลยกรรมของสาวที่ทำอาชีพพริตตี้ว่า

12953165_10153359250220764_602655901_o

‘อาชีพพริตตี้จริง ๆ แล้วพวกเราไม่ได้อยากที่จะทำศัลยกรรมเยอะอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่อาชีพเราต้องเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของลูกค้าที่จ้างงาน ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงเราก็จะไม่มีงาน พวกเราเอง เข้าใจคนภายนอกนะ อาจจะมองว่าพวกเราศัลยกรรมมากไปจนบางคนมองว่าเป็นตัวประหลาด (หัวเราะ) คนในวงการคนที่ศัลย์ฯ มาแล้วสวยมีเยอะคนที่ศัลย์ฯ มาแล้วไม่สวยก็เยอะเช่นกัน คนภายนอกหรือผู้ชายชอบไม่ชอบมันไม่ใช่ประเด็น ‘ประเด็นอยู่ที่ว่าเราทำละเราได้เงินนั่นคือจุดประสงค์หลัก’ คือพวกเรามีเหตุผลที่ทำ พูดตรงๆว่าพวกเราต้องใช้รูปลักษณ์ภายนอกในการหาเงิน แต่ก็ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์เท่านั้นคนถึงจะจ้างทำงาน

จะทำงานในวงการนี้ได้ก็ต้องมีความสามารถด้วย อยากให้คนภายนอกที่ไม่ได้มายืนอยู่ในจุดนี้ให้เข้าใจว่ามันเป็นงานเป็นเรื่องของการตลาดนะ เราเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของลูกค้าและกว่าพวกเราจะเข้ามาอยู่ในวงการนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าคุณสวยอย่างเดียวต่อให้ศัลยกรรมมาหนักมากแค่ไหนแต่ไม่มีความสามารถอยู่ในจุดนี้ได้ไม่นานแน่นอน ต้องยอมรับว่าพริตตี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูดคนให้สนใจกับสินค้า สมัยนี้ถ้าหน้าตาเบสิคเลยไม่ศัลยกรรมให้สวยยังไงก็ไม่ได้งานมันเปนไปตามเทรน เว้นซะแต่คุณเป็นคนดังจริงๆเป็นเน็ตไอดอลคนรู้จักเยอะนั่นคือยังไงก็ผ่าน บางงานลูกค้าเลือกจากยอดติดตามทาง Facebook ทาง IG ใครที่มียอดติดตามเยอะก็มีสิทธิ์ได้งานมากกว่า’

12952888_10153359248250764_1910696272_o

แต่กระนั้น นาเดียได้ฝากไปถึงชาวออนไลน์ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงต่ออาชีพพริตตี้ในกระทู้พันทิปด้วยว่า ‘อยากฝากแค่ให้เข้าใจอยากให้มองเปนเรื่องของงาน ไม่ได้ต้องการอยากให้มองในภาพลักษณ์ที่ไม่ดี อยากให้เข้าใจพวกเราค่ะ’

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะอาชีพไหน ที่เป็นอาชีพสุจริต และไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม  ดังวลีที่ว่า ‘ไม่มีงานไหนต่ำ หากทำด้วยใจสูง’ เพราะยังมีพริตตี้อีกเป็นจำนวนมาก ที่รักในอาชีพของตัวเอง หรือบางคนอาจทำเพื่อส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ ครอบครัว จึงน่าจะเพียงพอต่อการหยัดยืนในสังคมได้อย่างภาคภูมิไม่แพ้อาชีพอื่นเช่นเดียวกัน…

 

อ่านเรื่องที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ …อย่าตกหลุม ‘กับดักพริ๊ตตี้’ ในระบบทุนนิยม ?

MThai News

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ news.mthai.com