จบดรามา รีทัชยักษ์ สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ชี้แค่เข้าใจผิด คิดว่าช่างภาพดังปีนขึ้นไปติดหน้ากากเอง
จากกรณีที่เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อช่างภาพชื่อดัง ชุบ นกแก้ว ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Chub Nokkaew เปิดเผยว่า เขาถูกเจ้าหน้าที่จับ เนื่องจากทำการรีทัชภาพรูปปั้นยักษ์ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ก่อนจะนำเผยแพร่ในโลกโซเชียล เพื่อให้คนตระหนักห่วงสุขภาพ แต่กลับถูกมองว่าเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนั้น
ล่าสุดช่างภาพคนดังก็ได้โพสต์ข้อความชี้แจงหลังจากเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด คิดว่าตนเป็นคนปีนขึ้นไปติดหน้ากากอนามัยให้กับฝุ่น จึงเป็นที่มาของการจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ดีมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันกับผู้แจ้งเรื่องดังกล่าวแล้ว
ขอบคุณทุกๆ ความเป็นห่วง เคลียแล้วนะครับเรื่องภาพชุดดังกล่าว ประเด็นไม่มีอะไรเลย เป็นการเข้าใจผิดกัน มีคนเห็นภาพแล้วคิดว่าผมปีนขึ้นไปติดหน้ากากอนามัยจริงๆ ซึ่งถือว่าเป็นการลบหลู่สถานที่ สำคัญๆ ต่างๆ
เลยถือโอกาสชี้แจงไปแล้วว่ามันเป็นถ่ายภาพแล้วนำมารีทัชเท่านั้น ทางตำรวจ สน. บางกอกใหญ่ก็น่ารัก เขาทำตามหน้าที่ตามที่มีคนแจ้งมา เราก็เข้าไปชี้แจงถึงเจตนารมณ์ไป ตำรวจก็พาไปที่วัดอรุณฯ ไปเล่าเจตนาในการทำภาพนี้ขึ้นมาให้กับทางวัดได้ฟัง
และยืนยันว่าเราไม่ได้ปีนจริงๆ พระท่านยังพูดขึ้นมาว่า เมื่อเช้ายังโกรธ รปภ. เลย ว่าปล่อยให้ปีนขึ้นไปได้อย่างไร โยมทำเนียนไป ท่านก็เข้าใจถึงเจตนาดีที่เราทำสื่อเพื่อให้คนในสังคมตระหนักรู้ ถึงพิษภัยฝุ่น PM 2.5
แล้วท่านแนะนำให้ไปโพสต์ชี้แจงขั้นตอนการทำงานซะหน่อยว่าก่อนจะเป็นภาพว่าโยมแค่ถ่ายรูปแล้วเอามารีทัชให้ประชาชนเห็นภาพและเข้าใจง่ายๆ ท่านยังชี้แนะอีกว่า วันนี้อากาศดีขึ้นแล้ว ก็ทำภาพให้สดใสน่ามาเที่ยวหน่อย..
ท่านพระคุณเจ้าผมเรียกไม่เป็นนะ ผมว่าท่านมีวิสัยทัศน์มาก
แล้วก็ต้องกราบขอโทษในสถานที่ต่างๆ ที่ผมไปถ่ายทำโดยที่อาจจะคิดแค่ในมุมของศิลป คิดแค่เจตนาดีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดหลายๆ ด้านหลายมุมหน่อย งดดราม่านะครับจบแบบนี้ประเทศไทยน่าอยู่กว่าที่เราคิดเยอะเลย