รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุการเปลี่ยนชื่อเหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีของผู้สมัคร ส.ส. สามารถทำได้เป็นสิทธิ์ ส่วนการตั้งศูนย์อำนวยการการเลือกตั้ง เป็นการดูแลตามภารกิจเฉพาะที่ กกต.มอบหมาย
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปรากฎการณ์ที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งหลายจังหวัดและหลายพื้นที่เปลี่ยนชื่อ เหมือนกับชื่อของอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตามกฎหมายทุกคนสามารถเปลี่ยนชื่อได้ ถ้าไม่ผิดกฎเกณฑ์ไม่เป็นคำหยาบ อย่างไรก็ตามไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีนี้เพราะจะมีส่วนได้ส่วนเสีย
ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัครนอกเขตเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ที่จะใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยในการดูแลความสงบเรียบร้อย ร่วมกับทหาร และตำรวจ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเหตุอะไรที่จะส่อไปในทางไม่สงบเรียบร้อย สำหรับการตั้งศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งนั้นดูแลตามภารกิจเฉพาะของกระทรวงมหาดไทย เป็นภารกิจต่อเนื่องตามคำสั่ง จาก กกต
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเปลี่ยนชื่อของผู้สมัคร ส.ส. ว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเขาตัดสินใจกันเองที่เปลี่ยนชื่อ ส่วนที่ทั้งสองชื่อเป็นชื่อของผู้ที่ถูกดำเนินคดีจะมีปัญหาหรือไม่ ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะทุกคนสามารถเปลี่ยนชื่อกันได้ ถ้าคิดว่าเปลี่ยนแล้วดีก็เปลี่ยนไปจะเอาทุกทางทุกเทคนิคก็ไม่เป็นอะไร เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ต้องไปถาม กกต. เพราะเห็นว่า กกต.จะไปศึกษาเรื่องนี้เพราะไม่เคยพบมาก่อน