คนไทยผุด #saveThailand สู้ #BoycottThailandเรียกร้องความเป็นธรรมให้ประเทศ กรณีจับ ฮาคีม อัล โอไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน
จากกรณีเกิดกระแสเรียกร้องผ่านแฮชแท็ก #BoycottThailand ซึ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ขึ้นเป็นอันดับ 2 คู่กับแฮชแท็ก #SaveHakeem ในช่วงเย็นของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
หลังจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัว ฮาคีม อัล โอไรบี อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลกัปตันทีมชาติบาห์เรน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ตามการนัดสอบปากคำให้การ หลังอัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอส่งตัว นายฮาคีม ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปรับโทษที่ประเทศบาห์เรน ในข้อหาลอบวางเพลิง เผาทำลายทรัพย์สินราชการ เมื่อปี พ.ศ. 2555 นั้น
ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการคิดแคมเปญ #saveThailand ขึ้นในทวิตเตอร์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประเทศไทย ในฐานะตัวกลางของปมปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงเตือนสติคนไทย ไม่ให้นำกระแสดังกล่าวมาใช้โจมตีหรือกล่าวร้ายประเทศตนเองได้
ขณะที่เพจ Drama-addict ได้มีการโพสต์ข้อความแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมแนบลิงค์ข่าวเป็นถ้อยแถลงของทูตออสเตรเลียที่กล่าวโจมตีการล่าตัวของบาห์เรน โดยเผยว่า เรื่องนี้ความผิดพลาดส่วนหนึ่งน่าจะมาจากทางฝั่งออสเตรเลีย ที่ไม่มีการชัดเจนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากได้แจ้งไปยังอินเตอร์โพลว่าหมายจับนักบอลคนดังกล่าวเป็นหมายอะไร แต่พอแจ้งผิดกลับมาถอนหมายทีหลัง จนกระทั่งทางการไทยต้องมาจับกุมตามที่แจ้งมาดังกล่าว
สถานฑูตออสฯ บอกไม่ครบนะ ว่าคนที่แจ้งทางการไทยเรื่องหมายแดง ฮาคีม ต่ออินเตอร์โพล ออสฯ เอง แล้วพอรู้ว่าออกหมายผิดพลาด เพราะฮาคีมแกไม่ควรออกหมายแดงแต่ต้นละ ก็ค่อยมาถอนหมายหลัง
จนท. ในไทยดำเนินการตามที่คุณแจ้งมา ละพอสำนักข่าว ตปท. อย่างการ์เดี้ยนพยายามติดต่อสอบถาม จนท. ออสฯ ว่าใครเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์นี้ ทางฝั่งออสฯ ก็เห็นเงียบกริ๊บ จนป่านนี้ยังไม่แถลงสื่อเลยว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันพังขนาดนี้เพราะใครเป็นต้นเหตุ
สำหรับ นายฮาคีมได้ลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2557 และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากรัฐบาลออสเตรเลีย ให้อาศัยในออสเตรเลียได้ไม่จำกัดเวลา ก่อนจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยพร้อมภรรยา และถูกทางการไทยจับกุมตามหมายจับอินเตอร์โพลที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อ พ.ย.61