ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย สามีสุดทนคิดฆ่าตัวตาย หมดตัวสูญเงินนับล้าน-บ้านแตก หลังภรรยาหลงเชื่อสำนักปฎิบัติธรรม
รายการโหนกระแสได้เผยเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ร้องเรียนเรื่องภรรยากับแม่ยายเข้าไปอยู่ที่สำนักปฎิบัติธรรม แห่งหนึ่งที่ จ.พัทลุง แต่กลับถูกหลอกลวงจนหมดเนื้อหมดตัว สูญเงินไปนับล้านบาท ทั้งบ้านที่เป็นร้านอาหาร และที่ดินกว่า 11.5 ไร่ แถมครอบครัวยังแตกแยก
สุดทนถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย ซึ่งล่าสุดรายการโหนกระแส วันที่ 5 ก.พ. ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์- เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เชิญ คุณเจ (สามี ที่คิดฆ่าตัวตาย) และ คุณกวาง รษิกา (อดีตลูกศิษย์สำนักปฎิบัติธรรม) มาเปิดใจถึงเรื่องนี้
คุณเจเรื่องมันเป็นยังไงเล่าให้ฟังหน่อยครับ
เจ : ภรรยากับแม่ยายเข้าไปในสถานปฎิบัติธรรม โดยการชักนำของลูกศิษย์คนหนึ่งที่ทำงานขายประกันชีวิต โดยบอกว่าพ่อของภรรยาที่ตายมาหาเขา แล้วบอกว่าให้ภรรยากับแม่ยายไปหาเจ้าสำนัก พอไปเจ้าสำนักก็ให้ไปทำบุญให้พ่อ ซึ่งเขาบอกว่าเขาสามารถติดต่อกับวิญญาณ
เจ้าสำนักที่ว่าเป็นใคร
เจ : เป็นผู้หญิงใส่ชุดขาว ไม่ได้เป็นร่างทรง ไม่โกนหัว นุ่งขาวห่มขาว สุดท้ายภรรยาผมก็ไปกับแม่ยาย ซึ่งเขาบอกให้ไปทำบุญให้พ่อ โดยการถวายเงินสร้างกุฎิประมาณ 2 แสนบาท นี่เป็นครั้งแรก พอเขากลับมาก็ให้ผมไปถอนเงินมา แต่เขาไม่บอกว่าเอาไปให้สถานปฎิบัติธรรม เขาบอกเอาไปให้แม่ ผมก็ไปถอนไปให้หมด รู้ที่หลังว่าเขาเอาเงินไปให้เจ้าสำนักสร้างกุฎิ
แล้วได้สร้างมั้ยกุฎิ
เจ : ใครที่เข้าไปที่นั้นเขาก็บอกให้สร้างกุฎิทั้งหมด ซึ่งก็เป็นหลังนี้ แต่มีหลายคนที่ไม่ให้ก็มี
คุณอยู่ที่นั่นมาก่อนใช่ไหม
กวาง : ใช่ เมื่อปี 2555 ก็ขึ้นไปเอง ตอนนั้นไม่รู้จะไปไหน รู้สึกเบื่อๆ ก็ไปหาสถานที่ปฎิบัติธรรมอยู่ที่จังหวัดพัทลุง พอขึ้นไปครั้งแรกก็ไปเรื่อยๆ ลูกศิษย์เขาพยายามพูดให้เรากินของจากสำนักปฎิบัติธรรม เขาบอกว่าไม่กินจะไม่เป็นมงคล เราขึ้นไปปลายปี 55 ลงมาปลายปี 56 ก็ยังไปคุยกับภรรยาของน้องเขาเลยว่าอย่าขึ้นไปนะ มันไม่โอเค ซึ่งตอนนั้นเขายังไม่ได้ขึ้นไป
หลังจากให้เงินไป 2 แสนแล้วเขายังไปอีกไหม
เจ : เขาไปอีก พอกลับมาเขาก็บอกว่าปฎิบัติกิจกรรมกับเขาไหม เราก็บอกว่าอย่าไปเชื่อสถานปฎิบัติธรรมนะ เพราะเรารู้มาแล้วว่าเขาทำให้ครอบครัวแตกแยก ซึ่งคืนนั้นทั้งคืนเขาก็นอนร้องไห้ เพราะที่สำนักเขาบอกว่าสามีนอกใจ อีกวันเขาก็ไปอีก พอกลับมาเขาก็บอกว่าผมไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้วนะ ซึ่งที่บ้านเปิดร้านอาหารอยู่ด้วย
เขาก็บอกว่าเขายกให้แม่แล้ว ส่วนเขาจะไปปฎิบัติธรรม ไล่เราเลย นอกจากผมแล้วเขาก็ไล่พนักงานที่ร้านด้วย แล้วเขาไปอยู่ที่สถานปฎิบัติธรรมเลย ซึ่งผมก็ไปอยู่ข้างนอก ถัดมาอีก 2-3 วันเขาก็โทรมาหาผมอีกครั้ง เขาบอกว่าอยากอยู่เป็นครอบครัวอีกไหม ถ้าอยากอยู่ให้ผมไปที่อาจารย์แม่
ซึ่งผมไป แต่ก่อนที่จะไปผมไปหาเจ้าคณะอำเภอ ท่านก็บอกว่าพวกนี้เป็นพวกต้มตุ๋น ไปได้แต่อย่าไปกินของที่เขาให้ ซึ่งพอผมไปเจ้าสำนักก็รอผมอยู่แล้ว เขาก็ดูดวงให้ผมเลย เขาบอกว่าเจกับภรรยาไม่ได้เป็นเนื้อคู่กัน แต่มีทางแก้ คือผมต้องมาปฎิบัติธรรมและเป็นลูกศิษย์ที่นี่ โดยการถือศีลและปิดวาจา 7 วัน ผมก็ด่าเลยว่าพวกคุณเป็น 18 มงกุฎ คุณหลอกคนมาเยอะแล้ว หลังจากนั้นภรรยาก็โกรธผมมาก บอกว่าว่าถ้าลบหลู่อาจารย์ต้องอายุสั้น
แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อ
เจ : พอผมกลับมาญาติพี่น้องก็โทรศัพท์มาให้ผมไปหา พอผมลงนั่ง เขาก็เอาผ้าขาวมาปูที่หน้าขา แล้วก็กราบ 1 ครั้งก่อนจะบอกว่าไม่ขอทำหน้าที่ภรรยาแล้ว ขอเลิกตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป ซึ่งเรามีลูกด้วยกัน 2 คน
เห็นบอกว่าถึงขั้นแม่ยายมอบมรดกให้พี่สาวไป แต่แม่ชีบอกไปเอาคืนมา
เจ : คือพี่สาวของแม่ยายทำงานอยู่ที่อำเภอ แม่ยายมากับพวกแม่ชี ก็เข้ามาขอ ก่อนหน้านั้นก็มาขอที่ดินที่บ้านภรรยาไปแล้ว ขอมาเป็นของแม่ พอมาเป็นของแม่ทางสำนักก็เปลี่ยนชื่อร้านแล้วมาบริหารเอง จากเดิมเป็นปลาเผาตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นร้านมังสวิรัติเรือนทิพย์และอาหารเจ แต่ไม่มีลูกค้า เพราะไม่มีใครกิน
นอกจากนั้นก็มีเรื่องที่ดิน 11 ไร่ครึ่ง ซื้อมาเกือบล้าน ผมไปตัดปาล์มเพื่อเอาเงินมาให้ลูกจ่ายค่าโรงเรียน แต่เขาปิดทางไม่ให้เข้า เพราะภรรยายกให้สำนักนั้นไปแล้ว ผมสืบทราบมาว่ายกให้เปล่าๆ แต่ลงเป็นการซื้อขายเรียบร้อย
แล้วตอนนี้ภรรยาคุณอยู่ไหน
เจ : อยู่ที่สำนักครับ ไปกินนอนอยู่ที่นั่นเลย ส่วนเรื่องมรดกที่ยกให้พี่สาวไปก็ไปบีบคั้นเขาทุกวัน ตอนแรกๆ ญาติพี่น้องก็ไม่ยอม แต่เขามาทุกวัน สุดท้ายพี่สาวของแม่ยายก็โอนให้เลยเพราะรำคาญ ไปโอนกันที่ที่ดินเลย
พอได้บ้านและที่ดินไปเขาทำยังไงต่อ
เจ : พอได้ไปเขาก็มาขนของออกทั้งหมด แล้วปิดป้ายขายเลย เขียนป้ายว่าขายด่วนเจ้าของออกบวช แต่ไม่มีใครกล้าซื้อ มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะเล่า เขาไปบอกญาติพี่น้องว่า เขาติดต่อวิญญาณพ่อตาได้ แล้วเขาถามว่าตายยังไง ภรรยาบอกว่าเจ้าสำนักบอกว่าเขาติดต่อภรรยาได้ และบอกว่าผมกับแม่ผมเป็นคนวางยาพ่อตา หรือว่าทำคุณไสยใส่ จนภรรยาเกลียดผมเลย ผมกล้าสาบานเลย เจอกันไม่มองหน้าเลย
เขาบอกว่าคุณจะฆ่าตัวตายเลยจริงไหม
เจ : จริงครับ ช่วงนั้นเครียดมาก ตอนที่เขาไล่ออกมาผมนอนร้องไห้ทุกคืน ซึ่งลูกก็อยู่กับแม่ยาย เพราะตอนนั้นเขายังไม่ได้อยู่ที่สำนัก พอผมไปรับลูกเพื่อไปเที่ยว แม่ยายก็ขนหนังสือ เสื้อผ้าลูกมาโยนไว้ที่บ้านผมเลย
พี่เขาไปเห็นตรงนั้นแล้วถอนตัวมาใช่ไหม ทำไมถึงถอนตัว
กวาง : คือเขาไม่ให้เรานับถือพระ พระที่ห้อยคอ พระพุทธรูปที่บ้านก็ไม่ให้มี ไม่ว่าจะพระอะไรก็ให้เอาออก เขาบอกพระที่สร้างปลุกเสกมาทั้งนั้น ซึ่งมีวิญญาณ ครอบครัวเราก็จะอยู่ไม่เป็นสุข ให้เราเอาไปให้เขาไปล้างอาถรรพ์ เราก็หลงเชื่อมาเอาของแฟนไป ซึ่งของแฟนเป็นพระเก่าเยอะมาก เราก็เอาไปให้
เสร็จแล้วแฟนก็มาถามว่าของเขาหายไปไหน เราก็ยอมรับว่าเอาไปให้สำนัก แฟนไม่ยอม ไปเอากลับมา เราก็ขึ้นไปขอ เขาก็ให้กลับมา แต่แฟนบอกว่าพระที่เป็นพระเก่าหายไปหมดเลย มีแต่พระรุ่นใหม่ พอแฟนบอกแบบนั้นเราก็คิดว่าไม่ใช่แล้ว
เห็นว่ามีจดหมายจากประกันชีวิตฉบับหนึ่งส่งมาหาคุณ
เจ : ใช่ครับ มีจดหมายการทำประกันชีวิตให้ผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว ส่งมาที่บ้านแม่ยาย แต่พอดีคนส่งรู้จักกับผมก็เอามาให้ผม ผมทำประกันนานแล้วและยกเลิกไปแล้ว ถ้าเกิดผมตายภรรยาจะเป็นผู้รับเงิน ผมก็ไม่ทราบว่าใครทำ แต่คนที่ทำประกันให้คือคนที่ชวนภรรยาผมไปสำนักนี้ คือผมไปขอความเป็นธรรมมาเยอะมาก ทางตำรวจบอกว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาทำถูกต้องทุกอย่าง ผมไม่มีทนายที่จะดูแลเรื่องนี้
ถึงตอนนี้ยังรักภรรยาอยู่ไหม
เจ : ยังรักเพราะรู้ว่าเขาถูกครอบงำอะไรสักอย่าง ถ้าเขาดูอยู่ผมก็อยากให้เขาออกจากสำนักนี้ มันไม่เป็นความจริง มันหลอกลวง เพราะผู้เสียหายมีเยอะมาก