‘เอนก เหล่าธรรมทัศน์’ ผู้ก่อตั้งรวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ พระราชโองการฉบับเดียว ดับทุกข์ทวยราษฎร์ได้ดังพลัน
จากกรณีที่ พรรคไทยรักษาชาติ ได้เสนอพระนาม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และในวันเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า พระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงดำรงสถานะอยู่เหนือการเมือง
ล่าสุดวันที่ 9 ก.พ. 2562 นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ก่อตั้งรวมพลังประชาชาติไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “เมื่อวานนี้ปฏิทินจีนระบุว่า 8 กพ “เจ้าลงมาจากสวรรค์” เพิ่งเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ในยามที่ทวยราษฎร์เกือบทั้งประเทศวิตกว่าบ้านเมือง กำลังเดินไปสู่ความสับสนปั่นป่วน วิตกกังวลว่า “เสาหลัก” ของบ้านเมืองกำลังโยกคลอน ก็กลางดึกนั้นเอง
ความมืดมิดในหัวใจก็หมดสิ้น เมื่อได้อ่านหรือฟังประกาศพระราชโองการ “สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร” ซึ่งออกมาทันเวลา ประดุจ “เจ้าลงมาจากสวรรค์” ตามที่ปฏิทินบอก ลงมาดับทุกข์เข็ญของอาณาประชาราษฎร์โดยแท้
พระเกียรติยศ ร. 10 เบ่งบานทั้งแผ่นดิน คนไทยรักเคารพ-ศรัทธาพระองค์ท่านมากขึ้นอีก ทวีทบเท่า หลายคนก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งน้ำตา พวกเรามองไปข้างหน้าสู่งานพระราชพิธีบรมราชาภิเศก ซึ่งจะยิ่งสง่างาม จะสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น แม้พระราชพิธีนี้มีเพื่อสำแดงว่าพระมหากษัตริย์เป็นเทวราช
แต่เหตุการณ์ที่เริ่มต้นแต่เช้าและจบลงก่อนสิ้นวันที่ 8 กพ นั้น พิสูจน์ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นธรรมราชด้วย พระราชโองการที่จะจารึกไว้ประวัติศาสตร์นี้วินิจฉัยสิ่งที่เกิดขึ้นตามหลักการรัฐธรรมนูญ และหลักโบราณราชประเพณีที่ใช้มานับแต่ปี 2475 เป็นต้น รวมทั้งตราไว้ว่าด้วยว่าเป็นวัฒนธรรมของชาติที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องไม่ถูกนำเข้าไปเป็นฝักฝ่ายในทางการเมือง ขอน้อมรับพระราชปรีชาญาณและพระบรมราชวินิจฉัยนี้ใส่เกล้าใส่กระหม่อม
สุดท้าย ผมอ่านความตอนต้นของพระราชโองการที่จะเป็นเอกสารสำคัญของชาติต่อไป นี้ยังระบุว่าเจ้าแผ่นดิน หรือเจ้าอยู่หัวของเรา นั้น จะทรงครองราชย์แบบ “พ่อปกครองลูก” ด้วย เทวราชและธรรมราชฉบับไทยเรานั้น ทรงเป็น “พ่อของแผ่นดิน” ด้วย ดับทุกข์ ดูแลให้เกิดสุข แก่ราษฎร และ เพิ่มเติมอีก จากเหตุการณ์ 8 กพ 2562 คือทรงนำพา ชี้ทางแก่ราษฎรที่เปรียบเสมือนลูกในยามที่พวกเขาสับสนปั่นป่วน”