ยายวัย 68 ปี ออกไปทำการจุดไฟเผาตอซังข้าวในที่นาตนเอง ไฟเกิดลุกลามอย่างรวดเร็วเพราะลมแรง ทำให้ลามไปไหม้ไร่มันสำปะหลัง และไร่อ้อยของเพื่อนบ้านข้างเคียง เกรงมีความผิดลุยดับไฟเองทำให้ถูกไฟที่ไหม้ป่าอ้อยเผาร่าง
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านโคกล่าม ต.ห้วยยาง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น มีผู้เสียชีวิตจากการเผาไร่อ้อย จึงได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นไร่อ้อย อยู่ติดกับถนนสาย อ.กระนวน – ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ บริเวณบ้านโคกล่าม ต.ห้วยยาง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยของไฟไหม้ไร่อ้อยเป็นบริเวณกว้าง และจุดที่ผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่กลางไร่อ้อย โดยต้นเพลิงมาจากที่นาของผู้ตายเอง และมีร่องรอยของไฟลามทุ่งไหม้เป็นทางยาวมาจนถึงไร่อ้อยที่อยู่ข้างเคียงกัน ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นหญิง 1 ราย
จากการสอบถามนายสัมฤทธิ์ พรมขอนยาง อายุ 61 ปี ชาวบ้านโคกล่าม ต.ห้วยยาง บอกว่าได้เห็นไฟไหม้ป่าอ้อยลุกลามมีเปลวไฟสูง และเห็นควันสีดำพุ่งกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะการเผาไร่อ้อยถือเป็นเรื่องปกติของชาวไร่อ้อยแถบนี้ แต่ไม่นานก็ได้ยินชาวบ้านร้องว่า มีคนถูกไฟไหม้ตายอยู่กลางป่าอ้อย ตนจึงวิ่งออกไปดู เห็นเพียงลูกสาวของผู้ตายยืนร้องไห้อยู่
ซึ่งจากการสอบถามลูกสาวของผู้ตายทราบว่าผู้ตายชื่อนาง เลี่ยน ศรีสวัสดิ์ อายุ 68 ปี และจากการสอบถามลูกสาวของผู้ตายทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. นางเลี่ยน ซึ่งเป็นแม่ของตนเองได้ชวนตนออกมาจุดไฟเผาตอซังข้าวในที่นาของตนเอง
จากนั้นไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเข้าไปไหม้ไร่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นที่ของตนเองเหมือนกัน แต่เปลวไฟยิ่งลุกแรงขึ้น เพราะลมแรงมาก และได้ลุกลามเข้าไปในไร่อ้อยของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน
นางเลี่ยนจึงใช้กิ่งไม้เข้าไปตีบริเวณเกิดไฟไหม้ เพราะเกรงว่าตนเองจะมีความผิดเนื่องจากเป็นไร่อ้อยของคนอื่น สันนิษฐานว่านางเลี่ยนจะสูดดมควันเข้าไปมาก ประกอบกับอายุก็มากแล้ว จึงทำให้หมดสติล้มลงในสภาพนอนหงาย และถูกไฟที่ไหม้ป่าอ้อยเผาร่างตายคาที่ดำเป็นตอตะโกอยู่ในไร่อ้อย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยแพทย์เวร และหน่วยกู้ภัย ได้ออกไปทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมนำศพผู้ตายมอบให้กับญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดบ้านห้วยยาง
อย่างไรก็ตาม สาเหตุการตายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ทำการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ถึงแม้ว่าทางญาติ ๆ ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยถึงสาเหตุการตายของนางเลี่ยน