กกต ทษช. พรรคไทยรักษาชาติ ยุบพรรค

ทีมกฎหมาย ทษช. ยื่นหนังสือ กกต. ขอใช้สิทธิพิจารณาปมยุบพรรค

ทีมกฎหมาย ‘ไทยรักษาชาติ’ ยื่นเรื่องต่อ กกต. ขอให้รับฟังข้อเท็จจริงในฐานะผู้ถูกกล่าวหา หลังกังวลจะพิจารณาเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค วันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 09.00 น. นายสุรชัย ชินชัย คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ…

Home / NEWS / ทีมกฎหมาย ทษช. ยื่นหนังสือ กกต. ขอใช้สิทธิพิจารณาปมยุบพรรค

ทีมกฎหมาย ‘ไทยรักษาชาติ’ ยื่นเรื่องต่อ กกต. ขอให้รับฟังข้อเท็จจริงในฐานะผู้ถูกกล่าวหา หลังกังวลจะพิจารณาเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค

วันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 09.00 น. นายสุรชัย ชินชัย คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีมีข่าวเผยแพร่ว่า กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดย กกต. จะได้ดำเนินการพิจารณาและมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติตามพระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือพ.ศ. 2560 มาตรา 92 ซึ่งอ้างว่า กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคไทยรักษาชาติมีการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว

นายสุรชัย ระบุว่า วันนี้มายื่น กกต. ขอให้พิจารณากรณีข่าวที่จะยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งทางพรรคเห็นว่าการใช้อำนาจของ กกต.เป็นไปตามหลักนิติธรรม ตามที่รัฐธรรมธรรมนูญบัญญัติไว้ในมาตรา 3 และการยุบพรรคเป็นการกระทบต่อสิทธิของพรรคและสมาชิกพรรค ตามมาตรา 4 เป็นการละเมิดสิทธิของพรรคและสมาชิกพรรค

ซึ่งการใช้อำนาจของ กกต.ดังกล่าวต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 93

ดังนั้นการดำเนินการใดๆ ของคณะกรรมการ จึงอาจเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะนายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต.จะรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน โดยฟังความฝ่ายเดียวไม่ให้โอกาสพรรคที่ถูกกล่าวหาชี้แจง แสดงหลักฐานก็ไม่ได้เพราะขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักกฎหมายที่กำหนด

ทั้งนี้ เพื่อให้การพิจารณาคดีของ กกต.เป็นไปตามหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม บัญญัติรัฐธรรมนูญยังให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพนั้น ต้องให้โอกาสพรรคไทยรักษาชาติผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานโดยสรุป ซึ่งผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะให้ถ้อยคำหรือแสดงพยานหลักฐานภายในระยะเวลาที่กรรมการหรือเจ้าพนักงานกำหนด เพื่อความยุติธรรมและเป็นไปตามหลักฟังความทุกฝ่าย ซึ่งเป็นหลักยุติธรรมพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรม