ทนายคู่ใจเตือนเจ้าหนี้ ทวงหนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือไอจี อาจผิด พรบ.การทวงถามหนี้
เป็นเรื่องราวที่ผู้คนบนโลกออนไลน์ให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ หลังจากแฟนเพจ ทนายคู่ใจ ได้มีการโพสต์ข้อความเตือนเหล่าเจ้าหนี้ เกี่ยวกับการทวงถามหนี้ผ่านทางโชเชียล เนื่องจากมีลูกหนี้ท่านหนึ่งมาขอคำปรึกษา
ผู้มาขอคำปรึกษาระบุว่า ตนค้างชำระหนี้กับบริษัทโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง เป็นเงิน 38,400 บาท มีการผลัดผ่อนกับเจ้าของโรงพิมพ์เป็นประจำ แต่เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2554 ตนได้รับเพื่อนใหม่ทางเฟซบุ๊ก ปรากฏว่าตนถูกอีกฝั่งเขียนข้อความทวงหนี้แบบประจาน มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นต่อข้อความดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งตนยืนยันไม่ได้หนีไปไหนยังอยู่ที่เดิม ตนรู้สึกอับอายกับสิ่งที่อีกฝั่งกระทำ จึงอยากสอบถามว่าสามารถฟ้องหมิ่นประมาทได้หรือไม่
ซึ่งทางแฟนเพจ ทนายคู่ใจ ได้ระบุรายละเอียดไว้ว่า “ห้ามทวงหนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือไอจี เด็ดขาด ไม่งั้นลูกหนี้แจ้งจับเจ้าหนี้จะหาว่าไม่เตือน”
เป็นเรื่องน่าเบื่อมากเวลาใครมาทวงหนี้เราแล้ว ลูกหนี้ก็หลบหน้าหลบตาหนีหายไปจากชีวิตเจ้าหนี้เลย มีเพื่อนเสียเพื่อนจริง ๆ เอาล่ะเข้าประเด็นเลยวันนี้ทนายคู่ใจจะหยิบยกประเด็นการทวงหนี้ผ่าน เฟซบุ๊กหรือไลน์ มาว่าพวกชอบทวงหนี้ โดยไปโพสต์ตามหน้าไทมไลน์ หรือ wall ซึ่งเป็นกระดาษออนไลน์สาธารณะ เพื่อน ๆ ของเจ้าของเฟซ – ไลน์ หรือ บุคคลทั่วไป อาจจะเข้ามาอ่านคอมเมนท์ หรือโพสต์นั้นได้ คำถามถือการกระทำเช่นนี้ เจ้าหนี้ทำได้หรือไม่ เป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่
คำตอบคือไม่ผิดนะครับ ตามแนวฎีกา 1739/2523 แต่ผิด พรบ.การทวงถามหนี้ อยู่ดี มาตรา 11(3) แจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับการเป็นหนี้ของลูกหนี้ต่อบุคคลภายนอก โทษจำคุก 1 ปีหรือปรับ 1 แสนบาท นั่นคือสมัยก่อนที่ พรบ.ทวงถามหนี้จะบังคับใช้ในปี 2558 การโพสต์ข้อความทวงหนี้ยังสามารถทำได้ แต่หลังจากนี้ทำไม่ได้ เพราะผิดกฎหมายแถมยอมความไม่ได้ด้วย จะทวงหนี้ถามทนายก่อนดีที่สุด
พร้อมกันนี้ทางแฟนเพจ ทนายคู่ใจยังได้ยกตัวอย่างเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจมากขึ้นอีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2523 เดิมห้างโจทก์กับบริษัทจำเลยที่ 1 ติดต่อค้าขายกันมาหลายปี โดยโจทก์ซื้อสินค้าจากจำเลยที่ 1 ต่อมาโจทก์เลิกซื้อสินค้าจากจำเลยที่ 1 และยังค้างชำระค่าสินค้าจำเลยที่ 1 อยู่ จำเลยที่ 1 ได้ทวงถามโจทก์ให้ชำระหนี้หลายครั้งแล้ว โจทก์ไม่ชำระ จึงได้มีประกาศโฆษณาลงในหนังสือพิมพ์ข้อความว่า ให้โจทก์จัดการชำระหนี้ที่ค้างจำเลยที่ 1 ภายใน 7 วัน มิฉะนั้น จะดำเนินการตามกฎหมาย
แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในฐานะกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 และส่วนตัว เป็นผู้จัดให้มีการประกาศข้อความดังกล่าวก็ตาม ข้อความที่ประกาศนั้นก็เป็นเรื่องคำเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้ ซึ่งจำเลยที่ 1 มีสิทธิที่จะกระทำได้ตามกฎหมาย ทั้งข้อความที่ประกาศก็ไม่มีข้อความใดที่เป็นการใส่ความโจทก์ โดยประการที่น่าทำให้เสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่น การกระทำของจำเลยทั้งสอง จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 (โปรดสังเกตว่ากรณีนี้จะเป็นกรณีการทวงหนี้โดยใช้สิทธิทางกฎหมายในด้านสำนวนภาษาที่ใช้ก็เป็นตามกฎหมาย จึงไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท)
หากใครมีข้อสงสัยสามารถติดต่อปรึกษากฎหมายฟรีจาก ทนายคู่ใจได้ที่เบอร์ 092-4533-393 หรือไลน์ @freelaw
MThai News
ขอบคุณข้อมูลจาก แฟนเพจ ทนายคู่ใจ