5 เรื่องน่ารู้ ในปรากฏการณ์ตั้งโต๊ะเจรจาครั้งหยุดโลก โดนัลด์ ทรัมป์-คิม จองอึน

ขณะนี้ทั้งโดนัลด์ ทรัมป์และคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางถึงประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมกันพูดคุยเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ โดยการพูดคุยครั้งนี้ถูกยกให้เป็นการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งศตวรรษ เนื่องจากทั้งสองประเทศ มีความสัมพันธ์อันเลวร้ายมาเป็นเวลายาวนานก่อนหน้านี้ ชนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การประชุมหารือระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ และคิมจองอึน…

Home / NEWS / 5 เรื่องน่ารู้ ในปรากฏการณ์ตั้งโต๊ะเจรจาครั้งหยุดโลก โดนัลด์ ทรัมป์-คิม จองอึน

ขณะนี้ทั้งโดนัลด์ ทรัมป์และคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางถึงประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมกันพูดคุยเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ โดยการพูดคุยครั้งนี้ถูกยกให้เป็นการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งศตวรรษ เนื่องจากทั้งสองประเทศ มีความสัมพันธ์อันเลวร้ายมาเป็นเวลายาวนานก่อนหน้านี้

ชนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การประชุมหารือระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ และคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ที่โรงแรมคาเปลลา (Capella Hotel) บนเกาะเซ็นโตซ่า ประเทศสิงคโปร์  โดยมีการจับตาผลของการประชุมในครั้งนี้ว่า จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากขัดแย้งกันมาเป็นเวลายาวนานได้หรือไม่ โดยมีการตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

1.เนื้อหา วาระการประชุม

สาระสำคัญในการประชุมครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่วาระเรื่องการหยุดยั้งโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือ ไม่ได้ให้คำมั่นเป็นที่แน่ชัดว่า จะล้มเลิกโครงการดังกล่าวอย่างเด็ดขาดหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯหวังว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะเป็นเวทีในการลงนามในข้อตกลงการปลดปล่อยนิวเคลียร์ที่ยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันมีข่าวแพร่สะพัดออกมาว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร รวมทั้งสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตหรือสนธิสัญญาสันติภาพ เพื่อนำไปสู่การยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ

2.อาจเกิดการล้มโต๊ะเจรจาขึ้นได้…

เนื่องด้วยสาเหตุที่การประชุมครั้งนี้เป็นการพบกันครั้งแรกของ 2 ผู้นำตัวพ่อ ทั้งยังปัจจัยที่มีนักแปลเพียงคนเดียวในการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่า หากบางช่วงบางตอนที่เคมีของทั้งสองผู้นำไม่ตรงกัน อาจเกิดการล้มโต๊ะเจรจาขึ้นได้ แต่กระนั้น การพุดคุยครั้งนี้ยังมีไม้นวมอย่างคอม โย ยอง น้องสาวของนายคิมจอง อึน ที่อาจจะผ่อนปรนให้การเจรจาเป็นไปอย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น

3.ระยะเวลาในการประชุม พูดคุย

มีรายงานว่า นายคิม จอง อึน จะเดินทางออกจากสิงคโปร์ในเวลา 14.00 น. ซึ่งนับเป็นเวลาเพียง 5 ชั่วโมงหลังจากการประชุม หารือเริ่มต้นขึ้น ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเดินทางกลับในเวลา 20.00 น. ซึ่งเป็นไปได้ว่า การเจรจาจะสิ้นสุดลงในช่วงบ่ายวันเดียวกัน โดยถือว่า เป็นการประชุมที่ค่อนข้างสั้น ทว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกรุงวอชิงตันและเปียงยางจะพูดคุยกันในประเด็นเรื่องการประนีประนอมข้อพิพาทนิวเคลียร์อย่างจริงจังในวันนี้ (11 มิ.ย.2561) ก่อนที่ 2 ผู้นำจะพบปะกันในวันถัดไป

4.ภาษากายสื่อนัยทางการเมือง ?

มีการตั้งข้อสังเกต เกี่ยวกับภาษากายที่ผู้นำทั้งสองจะสื่อออกมาในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งนี้ โดยมีการเปรียบเทียบการพบปะระหว่างนายคิม จอง อึน และ นายมุน แจ-อินประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งสองกอดกันเสมือนเพื่อนเก่า ทั้งที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ทำสงครามกันมาอย่างยาวนาน ส่วนสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือเอง ก็ถือเป็นศัตรูคู่แค้นกันมายาวนานกว่า 70 ปี การพบกันครั้งนี้จึงถูกทั่วโลกจับตามองอย่างมาก

5.จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ชาติ

นอกจากการพบเจอกันที่สิงคโปร์แล้ว ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า นายคิม จอง อึน จะได้รับเชิญไปเยือนสหรัฐฯรวมถึง จะมีการเชิญนายทรัมป์ เดินทางไปยังเกาหลีเหนือด้วยหรือไม่ รวมถึงความเป็นไปได้ว่าจะมีการนัดหมายเพื่อพุดคุยระหว่าง 2 ผู้นำอีกครั้งหากการประชุมครั้งนี้ล้มเหลว