PM2.5 ฝุ่น ฝุ่นละอองในอากาศ

ปภ.เผย 6 จังหวัดภาคเหนือ คุณภาพอากาศเริ่มกระทบต่อสุขภาพ เร่งแก้ปัญหา

ปภ.รายงาน 6 จว.ภาคเหนือ คุณภาพอากาศ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เร่งปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานพื้นที่ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่…

Home / NEWS / ปภ.เผย 6 จังหวัดภาคเหนือ คุณภาพอากาศเริ่มกระทบต่อสุขภาพ เร่งแก้ปัญหา

ปภ.รายงาน 6 จว.ภาคเหนือ คุณภาพอากาศ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เร่งปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานพื้นที่ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ พะเยา และตาก คุณภาพอากาศในภาพรวมเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสาน 6 จังหวัดภาคเหนือดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะ เศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่า และปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 05.00 น. พบว่า ภาคเหนือมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน (50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ใน 6 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง (ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ตำบลบ้านดง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ) ลำพูน (ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน) น่าน (ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ) แพร่ (ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่) พะเยา (ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา) ตาก (ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด) มีค่า PM2.5 ระหว่าง 54 – 74 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 ระหว่าง 67 – 99ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 109 – 159

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสาน 6 จังหวัดภาคเหนือดังกล่าว ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้สอดคล้องกับ
สถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมด้วยเครื่องจักรกลสนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่ป่าไม้ เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาพื้นที่เกษตรกรรมให้กำหนดช่วงเวลา จัดระเบียบการเผา และประกาศเขตห้ามเผา

ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุมให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป