หัวอกเจ้าหนี้! โพสต์ทวงเงิน 700 บาท ถูกลูกหนี้แจ้งจับ งัดหลักฐานแฉถึงขั้นกราบ ไม่คืนให้ประจาน
จากกรณีเจ้าหนี้วัยรุ่นแทบหมดอนาคต เหตุโพสต์ทวงเงิน 700 บาท ทั้งที่ลูกหนี้เป็นคนระบุว่าถ้าคืนช้าให้ประจานได้เลย สุดท้ายเมื่อมีการโพสต์ประจาน รุ่นพี่กลับฟ้องหมิ่นประมาท เสี่ยงหมดอนาคตถูกจับเข้าสถานพินิจฯ
ล่าสุดรายการโหนกระแส ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “ตี๋” เจ้าหนี้ 700 บาท “พลอย” พี่สาวที่คอยช่วยเหลือ และ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ทนายคลายทุกข์
เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น?
ตี๋ : “มีรุ่นพี่ทักมาขอยืมเงิน 700 บาท รู้จักกัน 3 ปี ไม่ได้สนิทแค่เคยซ้อมบอลด้วยกัน เขาเคยทักมายืม ผมไม่มีผมเลยไม่ให้ เขาทักมาอีก
ตอนแรกผมบอกไม่มีตังค์ เขาบอกไม่เป็นไร อีกครั้งเขาก็ทักมาอีก ผมก็บอกว่าผมเหลือแค่ค่ากิน 1200 บาท เขาก็บอกว่างั้นพี่ขอยืม 700 ได้มั้ย เขาคืนพรุ่งนี้ ผมเลยให้เขายืมไป ทั้งที่ผมมีแค่ 1200 ใช้กิน”
คุณให้เขามากกว่าที่คุณจะติดตัวอีก?
ตี๋ : “ใช่ คิดว่าเขาจะคืนในวันต่อมา 11 โมง”
เหตุการณ์เกิดเมื่อไหร่?
ตี๋ : “1 ส.ค. ปี 61 พอวันรุ่งขึ้นก็หายไป ผมก็ทักไปย้ำๆ เพราะเป็นเงินใช้กิน เขาตอบกลับมาตอนเย็นๆ ว่าแข่งบอล เขาบอกเดี๋ยวจะโอนให้ แล้วก็ไม่โอนมา วันนั้นเป็นวันที่ 2 ส.ค. ผมก็รอ ถามเขาว่าจะได้เงินเมื่อไหร่ วันที่ 3 ก็บอกว่าจะจ่ายให้ ซึ่งก็หายเหมือนเดิม โผล่มาตอนเย็นเหมือนเดิม ผมก็ทักไปย้ำๆ ผมก็บอกว่าถ้าพี่ไม่คืนผม ผมขออนุญาตประจานนะ”
ลักษณะเหมือนเตือน เขาบอกว่ายังไง?
ตี๋ : “เขาบอกว่าเดี๋ยวพี่ออกไปโอนให้น้อง ผมก็รอเงิน ก็ไม่ได้อีก วันที่ 4 ส.ค. ก็ยังไม่ได้เงิน ทักไปย้ำๆ เหมือนเดิม เพราะเงินผมต้องใช้ ผมไปยืมแม่มาแล้ว เก็บไว้กิน 500 ก็ใช้หมดแล้ว ผมก็บอกว่าผมไปยืมเงินแม่มาแล้ว เมื่อไหร่พี่จะคืนผม ผมต้องไปยืมแม่ เขาบอกว่าเดี๋ยวโอนให้น้อง ถ้าภายในเที่ยงคืนนี้ไม่โอนให้น้องประจานพี่ได้เลย”
เป็นยังไง?
ตี๋ : “ก็ไม่คืน ผมก็ยังรอไปวันที่ 5 ส.ค. ตอนมืด ก็หายไปทั้งวัน ทักไปก็ไม่ตอบ มาตอบตอนผมโพสต์ประจานแล้ว รอจนมืดแล้ว”
มาดูข้อความแชต เขาถึงขั้นใช้คำว่ากราบ ยืมคนอื่นไม่มีใครให้เลย บอกไปเช่าบ้านจะไล่ออก คุณก็บอกไม่มีเลยมาเรื่อยๆ อุตส่าห์แคปจำนวนเงินที่มีในธนาคารให้เขาดูว่ามีเงิน 1287.23 บาท เหลือกินเท่านี้ เขาตอบมาว่าขอยืม 700 ก่อน เดี๋ยวแม่โอนมาให้ จะโอนให้คืน กราบล่ะ พี่ติดต่อเขาไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเป็นตามที่คุณบอก จนเขาบอกว่าถ้าไม่คืนก็ยอมให้ประจาน คุณแคปแล้วประจานเขา
พอโพสต์แล้วคืนเงินมั้ย?
ตี๋ : “คืนครับ พอโพสต์ถึงได้คืน หลังโพสต์ 1 ชม.”
บรรยายว่าอะไร?
ตี๋ : “ก็เขียนว่าให้ภาพมันเล่าเรื่องในตอนแรก”
เขาคืนเงินให้ คุณลบมั้ย?
ตี๋ : “ไม่ได้ลบครับ เขาติดต่อ บอกว่าลบโพสต์ให้พี่หน่อย พี่โอนเงินคืนแล้ว ผมไม่ได้ลบ เพราะมีผู้เสียหายเข้ามาโดนเหมือนที่ผมโดนหลายคนเลยคิดว่าเก็บไว้เป็นประโยชน์กับคนอื่น”
มีอีกข้อความ เหมือนคอมเมนต์คนนึงบอกว่าถูกรุ่นพี่คนนี้ไปยืมเขาเป็นแสน คุณก็แคปอันนั้นไปแขวนเอาไว้ในเฟซบุ๊กคุณด้วย ทำทำไม?
ตี๋ : “ผมเห็นว่าพี่คนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ที่ยืมเงินผม ผมเห็นว่าเขามีพฤติกรรมแบบเดียวกับที่เขาทำกับผม ผมเลยเอาไปแขวน กลัวมีเหยื่อรายอื่นโดนอีกครับ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เงินคืน”
พอหลังจากนั้น มีการไปเขียนข้างใต้ว่าพี่เขาใช้เงินคืนคุณแล้ว ทำไมไม่ลบทิ้งไปเลย?
ตี๋ : “ผมกะว่าจะเก็บไว้ให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นครับ ผมเลยโพสต์ใต้นั้นว่าผมได้เงินคืนแล้ว ใครไม่ได้เงินคืนก็ให้ติดต่อมาที่ผม
เพื่อจะช่วยให้เบอร์ให้เขาไปติดต่อกัน”
อย่างนี้ได้มั้ย?
เดชา : “ก็พอฟังได้ แม้ข้อความหมิ่นประมาท แต่หลักกฎมายศาลฎีกาในปี 58 ก็จะมีลักษณะนี้ เป็นการกระทำเหมือนร้องขอความเป็นธรรม
เรียกร้องความรับผิดชอบ เพราะติดต่อทางไหนไม่ได้แล้ว”
โทรศัพท์ไปได้มั้ย?
ตี๋ : “ไม่ได้ ผมไม่มีเบอร์ ส่งแชตคุยไลน์ไม่ตอบ โผล่มาตอนเย็นจะโอนๆ แต่ไม่โอนตลอด อินบ็อกก็ไม่อ่าน ไม่สามารถติดต่อได้เลย”
เดชา : “หมดหนทาง การมาทำลักษณะนี้ เคยมีศาลฏีกาตัดสินมา ข้อความหมิ่นประมาทแต่ไม่มีเจตนาใส่ความ ไม่มีเจตนาทำให้เขาเสียหาย
อันนี้ประการแรก ประการที่ 2 ลูกหนี้เขายินยอม แล้วจะเป็นผู้เสียหายได้ไง คุณยอมให้เขาประจานนี่ ข้อความมันก็ชัด”
แต่ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่มีการลงนะ ว่ายินยอมให้ทำแบบนี้?
เดชา : “ถ้าเป็นจริงเหมือนที่น้องเขาว่า น้องก็ไปแจ้งความกลับได้ว่าแจ้งความเท็จ เพราะเมื่อคุณยอมให้น้องประจานแล้ว คุณจะไปแจ้งความได้ยังไงคุณไม่ใช่ผู้เสียหาย คุณยอมให้เขาโพสต์”
หลังจากที่เขาคืนเงินคุณ คุณไม่ได้ลบโพสต์ตามคำร้องขอ เขาทำยังไง?
ตี๋ : “มีญาติเขาโทรมาใส่ผมว่าทำไมไม่ลบโพสต์ จะดำเนินคดี ผมก็ครับอย่างเดียว ผมก็ยังไม่ลบ ก็เก็บไว้ให้เป็นประโยชน์ จะได้ไม่มีคนโดน ผมคิดแบบนั้น”
คิดได้มั้ย?
เดชา : “ก็ทำได้ เหมือนเตือนประชาชน แม้เขาจะคืนเงินแล้ว แต่ก็ยังมีคนอื่นที่โดน เขาก็โพสต์ในช่วงที่ยินยอมให้ทำ ความผิดก็สำเร็จแล้ว
หลังจากนั้นเป็นผลจากการกระทำเท่านั้นเอง แล้วเงิน 700 ก็สำคัญกับเขา เพราะเขาเป็นนักศึกษา อายุ 18 ทำทุกทางแล้ว”
คุณพลอยกังวลใจมาก ไม่ได้กินไม่ได้นอน น้องจะหมดอนาคต?
พลอย : “เครียดมากค่ะตอนแรกวางแผนจะให้เขาสอบนักเรียนนายสิบทหารบก พอเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้เขาขาดคุณสมบัติ ต้องทิ้งโควตาการเรียนมหาลัยไปด้วย เลยไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เบื้องต้นไม่รู้เรื่องข้อกฎหมายอันใดเลย เครียดมาก น้องก็มาปรึกษาค่ะ ตอนนี้พยายามไปตามศาลนัด”
มีการไกล่เกลี่ยหรือยัง?
พลอย : “เบื้องต้นไกล่เกลี่ยค่ะ โดนเรียกไกล่เกลี่ย 2 รอบก่อนที่จะถูกข้อกล่าวหา ไปไกล่เกลี่ยที่โรงพัก ทางคู่กรณีไม่ยอม เขาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดด้วยเหตุผลน้องหนูโพสต์ทำให้เขาเสื่อมเสีย”
คู่กรณีเขาก็ติดต่อมาทางเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เขาบอกว่าคืนเงินแล้ว ให้เวลา 3 วันลบโพสต์ทิ้ง แต่คุณไม่ยอมลบ น้าเลยพาเขาไปแจ้งความจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถามว่าเพราะอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นนักฟุตบอลอยู่สโมสร เขาถูกออกจากสโมสรเพราะเรื่องนี้ เพราะโพสต์นี้ เขารู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับเขา พี่มองยังไง?
เดชา : “ผมว่าคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมคือตี๋นะ เพราะยืมเงินไปแล้วไม่ได้รับเงินตามกำหนด คุณยอมให้เขาประจาน แล้วคุณจะเป็นผู้เสียหายได้ไง หลักของผู้เสียหายตามกฎหมาย ต้องไม่มีส่วนในการกระทำความผิด แล้วคุณบอกว่าทำได้เลย ถ้าพี่จ่ายช้าประจานได้เลย เขาก็ทำตามความประสงค์คุณ แล้วเขาจะกลายเป็นผู้เสียหายได้ยังไง”
เรื่องขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง บางคนติดหนี้หลักหมื่นหลักแสนยังไกล่เกลี่ยได้ ทำไมเรื่องนี้ต้องใหญ่โตถึงขั้นไม่ยอมความ?
พลอย : “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”
เห็นบอกว่ามีการไปร้องอะไร?
พลอย : “ตรงนี้หนูไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเหตุผลอะไร เขาพยายามไปบอกให้ตำรวจดำเนินคดีน้อง ไปร้องไปทวงถามว่าทำไมไม่จัดการคดีนี้”
เขาไปร้องที่สถานีตำรวจภูธรปทุมธานี แล้วยังไง?
เดชา : “คดีแบบนี้บางทีไม่ค่อยเป็นสาระเท่าไหร่ สองช่องทางมีความเห็นไม่สั่งฟ้องก็เยอะ บางทีก็ให้เขาประจานความผิดสำเร็จไปแล้ว การโพสต์อะไรต่างๆ แม้มีข้อความหมิ่นประมาท แต่เขาก็มีข้อต่อสู้ว่าเขาป้องกันตัวเองเพราะเขาไม่ได้ตังค์”
การแจ้งข้อกล่าวหาในนี้บอกว่าน้าของลูกหนี้ มีการถามคุณว่ารู้มั้ยว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย คุณบอกว่ารู้แต่จะทำ คุณพูดมั้ย?
ตี๋ : “ไม่ได้พูดครับ”
เดชา : “คนแจ้งความจะติดคุกแทนเพราะแจ้งข้อความใส่ร้ายเขา ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคดีที่ร้องทุกข์ก็ไม่มี”
มีการระบุอีกว่ามีการนำข้อความจากเฟซคนอื่นก็อปมาลงในเฟซนายตี๋โดนไปเป็นแสน ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าผู้กล่าวหาขอยืมเงินจำนวนเป็นแสนและหลังจากที่มีการลงทวงเงิน ผู้กล่าวหาได้มีการชำระหนี้แล้วขอให้นายตี๋ลบเฟซ แต่นายตี๋ไม่อ่าน ไม่โทรติดต่อ ไม่รับสายผ่านไปสามวันน้าเลยโทรไปหานายตี๋แทน?
เดชา : “ความผิดหมิ่นประมาทมันสำเร็จ ลบไม่ลบเป็นผลการกระทำ ข้อความที่เขาโพสต์ เขาก็จัดให้ตามที่บอกประจานได้เลย มันไม่น่าจะมีความผิด”
แล้วตร.รับได้ไง?
เดชา : “ข้อเท็จจริงแบบนี้ไม่ปรากฏในชั้นสอบสวน ทางนี้ก็ไม่มีทนาย เวลาไปแจ้งเขาบอกมั้ยล่ะ ท้าให้ประจานได้เลย ฟังไปฟังมา ก็กลายเป็นว่าเขาอนุญาตให้ประจานได้”
ทางตร.เห็นข้อความมั้ยว่าเขายอมให้คุณประจานได้?
ตี๋ : “เพิ่งเห็นตอนที่ผมเอาไปยื่นเป็นหลักฐานตอนที่โดนหมายเรียก”
ทางโน้นบอกว่าโอนตู้แต่ระบบธนาคารมันล่ม มีการระบุด้วย?
เดชา : “ไม่น่าเชื่อนะ ระบบธนาคารล่ม”
ตี๋ : “ประมาณห้าโมงเย็นถึงสามทุ่ม”
ล่มยาวถึงขนาดนั้นเลย?
เดชา : “ถ้าระบบล่มจริงมันต้องเป็นข่าวใหญ่สิ”
อีกข้อในนี้เขาบอกว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานประมาทและพรบ.คอมพิเตอร์ เข้ามั้ย?
เดชา : “เป็นไปไม่ได้ ข้อความอาจจะหมิ่น แต่ในเมื่อผู้เสียหายยินยอม ผู้เสียหายก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจในการร้องทุกข์ในเมื่อผู้เสียหายเขายินยอม สองมันจะผิดทั้งหมิ่นประมาททั้งพรบ.คอมพ์ไม่ได้ ไปแจ้งสองความผิดนี้ได้ยังไง เหมือนกลั่นแกล้งเขา อาจโดน 157 ได้ ผิดวินัย”
เอาชัดๆ แจ้งพรบ.คอมพ์ กับหมิ่นประมาทต้องแยกกัน?
เดชา : “ถ้าผิดพรบ.คอมพ์ก็พรบ.คอมพ์ ไม่ใช่ผิดพรบ.คอมพ์และหมิ่นประมาทมันไม่มี คำพิพากษาตัดสินใหม่ล่าสุดปี 61 ถ้าผิดพรบ.คอมพ์ต้องไม่ใช่หมิ่นประมาท ถ้าผิดหมิ่นประมาทต้องไม่ใช่พรบ.คอมพ์ หมิ่นประมาทแค่ 2 ปี พรบ.คอมพ์ 5 ปี ถ้าเสียหายทางนี้ก็ไปแจงความดำเนินคดีกับตำรวจได้ ผมเคยเจอมาแล้ว ที่แปดริ้วเจอแบบนี้ผมยื่นโนติส แจ้งเปลี่ยนขอหาทันทีเลย”
เปลี่ยนข้อหาหมายถึง?
เดชา : “เหลือแค่หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พรบ.คอมพ์นี่ 5 ปีนะ ไปแจ้งแบบนั้นได้ไง ตร.ก็ต้องรู้กฎหมาย รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ”
ถ้าเขาคืนทำไมไม่ลบออก?
เดชา : “เขาเห็นว่ามีผู้เสียหายรายอื่นอีกเยอะแยะ เขาก็ปล่อยไว้เผื่อเป็นประโยชน์แต่มันไมมีการกระทำอะไรเพิ่มเติม ไม่ได้ไปพิมพ์เพิ่มอะไรต่างๆทางนี้ก็แก้ข่าวให้แล้วว่าเป็นคนดีแล้ว”
พี่สาวฟังแล้ว อุ่นใจขึ้นมั้ย?
พลอย : “สบายใจขึ้นค่ะ อยากให้เรื่องนี้จบให้เร็วที่สุด อยากให้ต่างคนต่างแยกย้ายกันแต่โดยดี”
ตี๋ล่ะ?
ตี๋ : “อยากให้เขาเมตตาหน่อยครับ ตอนเขาเดือนร้อนผมก็ช่วยเขา ตอนนี้ผมกลับมาเดือดร้อนแทนเขาแล้ว”
เขาก็อ้างว่าเขาเดือดร้อนเพราะอดเป็นนักฟุตบอล มองแบบนี้ได้มั้ย?
เดชา : “ก็ว่ากันไป แต่เป็นผม ผมถอนแจ้งความ เราเป็นนักฟุตบอลต้องแมนนะ ลูกผู้ชายไปเล่นงานเด็ก”