วันนี้ (17 ก.พ. 62 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสมยศ ลีลาปัญญาเลิศ นายภูมิภัทร นายพีรภัทร และ น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ บุตรชายและบุตรสาว ลงพื้นที่พบปะวัยรุ่น คนรุ่นใหม่และประชาชนบริเวณสยามสแควร์วัน ลานสยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ โดยมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยเป็นระยะๆ ตลอดการลงพื้นที่
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ระบุถึงนโยบายเรื่องโอกาสทำมาหากินของคนรุ่นใหม่และคนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยี ว่า ปัจจุบันธุรกิจหลายอย่างกำลังลดอัตราตำแหน่งงานลง และจะมีคนตกงาน 2-3 ปีข้างหน้า เป็นแสนคน อีกทั้งเด็กจบใหม่จะหางานได้ยากขึ้น จึงวางนโยบายเพื่อช่วยเหลือในเรื่องนี้ เช่น การตั้งกองทุนสร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่หรือเถ้าแก่ใหม่ จากนโยบายที่ไม่ให้มีเกณฑ์ทหาร แต่ให้เป็นการสมัครใจรับราชการแทน ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่เข้าเกณฑ์ทหาร ให้มาเข้าแคมป์สร้างธุรกิจรุ่นใหม่ โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวจะขอแบ่งงบจากกระทรวงกลาโหม รวมถึงจะทำแบรนด์ไทยแลนด์ พาคนตัวเล็กๆ ออกไปขายของในตลาดโลกโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย
นอกจากนี้ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีลงพื้นที่จตุจักร ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้และการลงพื้นที่จตุจักรของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ว่า เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน และได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การร่างกติกาและตั้งโรดแมพเพื่อนำไปสู่การคืนอำนาจของผู้มีอำนาจ
ส่วนการที่มีข้าราชการร่วมขึ้นเวลาปราศรัยของพรรคการเมืองต่างๆ คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า เจ้าหน้าที่รัฐต้องเป็นกลาง แต่แม้จะถูกเอารัดเอาเปรียบแต่จะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมถามถึงความเหมาะสมในการใช้อำนาจเต็มของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประรัฐ สมควรหรือไม่ และถามกลับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้จนถึงวันเลือกตั้งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ตนเองทำงานทางการเมืองมา 27 ปี ไม่เคยเจอเช่นนี้ ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่การเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มในการอนุมัติงบประมาณและโยกย้ายข้าราชการ และมีอำนาจ ม.44 อีกด้วย