คืบหน้า กลุ่ม จยย.รับจ้าง รวมตัวปิดด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ในขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กำลังประชุมเร่งคลี่คลายหาทางออก
วันนี้ 17 ก.พ.62 ที่ด่านพรมแดนสะเดาไทย-มาเลเซีย ม.7 เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากที่ กลุ่ม จยย.รับจ้าง บริเวณด่านพรมแดนสะเดา ที่บ้านด่านนอก ได้มีการรวมตัวกันปิดประตูทางเข้าออกฝั่งประเทศไทย-มาเลเซีย เพื่อเรียกร้องให้มีการผ่อนปรนหรือทำหนังสือชี้แจงไปยังฝั่ง ตม.มาเลเซีย ให้เข้าใจถึงเหตุของการคุมเข้มของทางฝั่งประเทศไทย โดยเป็นนโยบายของรัฐบาล สาเหตุของการคุมเข้มที่มีคำสั่งว่า บังคับใช้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง แก่ผู้เดินทางเข้าออกทางด่าน ตม.สะเดา และ ตม.ด่านประกอบ
โดยบุคคลที่เดินเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรต้องผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ของด่านตรวจตนเข้าเมืองฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน2หมื่นบาทตามมาตรา 62 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
โดยล่าสุดวันที่ 7 ก.พ. 61 ได้มีคำสั่งจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.สั่งการให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ประกอบกับ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายกำชับมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองให้เพิ่มความเข้มในการบุคคลและยานพาหนะ เพิ่มมาตรการในการป้องกันกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรง และแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุได้ รวมถึงการขนย้ายยุทธปัจจัยเข้ามาภายในราชอาณาจักร ซึ่งในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน ได้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวไทย เดินทางเข้า – ออก เป็นจำนวนมาก
และ ให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ และออกนอกประเทศ โดยที่ผ่านมาการเดินทางไปดิวตี้ฟรี ที่ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย ห่างชายแดนไทย-มาเลเซีย ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางออก – เข้า โดยหลังจากนี้ ผู้ที่จะเดินทางไปฝั่งประเทศมาเลเซียในทุกกรณี จะต้องมีหนังสือเดินทาง หรือบอร์เดอร์พาส และต้องผ่านการตรวจของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยทุกครั้ง ทั้งขาออกและขาเข้าประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจของ มาเลเซีย โดยกรณีดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 18 ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท
บังมุด ชาวบ้านที่ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างที่ ด่านพรมแดน สะเดาเผยว่า จากคำสั่งดังกล่าวทำให้กลุ่มวินรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่เคยรับส่งผู้โดยสารไปยัง ดิวตี้ฟรีซึ่งห่างจากพรมแดนไทยประมาณ 500เมตร นั้นต้องผ่านหลายขั้นตอนและเสียเวลาเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีรายได้ลดน้อยลงมาก ส่วนคนที่ไม่มีหนังสือเดินทางต้องหยุดรับผู้โดยสารโดยทันที ทำให้ขาดรายได้
ในวันนี้จึงมีการรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่าย ไทยและทางเจ้าหน้าที่ฝั่งมาเลเซีย กำลังประชุมเพื่อแก้ปัญหาและหาทางออกร่วมกัน
ส่วนบังมุดหลังจากที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ได้นำตัวมายังสภ.สะเดาเพื่อมาสอบปากคำและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะการกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายตามกฏหมายไทยหรือไม่