พรรคเพื่อไทย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เลือกตั้ง 62

เลือกตั้ง 62 : ‘สุดารัตน์’ เชื่อ 24 มี.ค. ยังมีเลือกตั้ง แม้มีเหตุการณ์ต่างๆ มาแทรก

“สุดารัตน์” เชื่อการเลือกตั้งยังมีในวันที่ 24 มีนาคม แม้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ มาแทรก ขอเคารพเสียงประชาชน หลังยอดผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าสูง ไม่ตอบโพลสำรวจคะแนนนิยมพลเอกประยุทธ์นำ ชี้คนตัดสินคือประชาชนทั้งประเทศ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังขึ้นเวทีปราศรัยอำเภอเมือง จ.อำนาจเจริญ…

Home / NEWS / เลือกตั้ง 62 : ‘สุดารัตน์’ เชื่อ 24 มี.ค. ยังมีเลือกตั้ง แม้มีเหตุการณ์ต่างๆ มาแทรก

“สุดารัตน์” เชื่อการเลือกตั้งยังมีในวันที่ 24 มีนาคม แม้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ มาแทรก ขอเคารพเสียงประชาชน หลังยอดผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าสูง ไม่ตอบโพลสำรวจคะแนนนิยมพลเอกประยุทธ์นำ ชี้คนตัดสินคือประชาชนทั้งประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังขึ้นเวทีปราศรัยอำเภอเมือง จ.อำนาจเจริญ ต่อกรณีการเดินทางไปตรวจราชการ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บ่อยครั้ง ในช่วงก่อนการเลือกตั้งว่า เจตนาเป็นอย่างไรประชาชนมองออก ทั้งวิธีการเข้าสู่อำนาจ การร่างกติกาใช้อำนาจรัฐมาเอารัดเอาเปรียบซึ่งมองเห็นว่ามีนัยยะว่าทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือหวังผลทางการเมือง และจะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมหากจะใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงินไปสร้างคะแนนนิยม แต่ไม่สามารถ ห้ามผู้มีอำนาจได้

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เชื่อว่าการเลือกตั้ง ยังเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 เมื่อมองจากกระแส รวมถึงการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า สะท้อนว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นการเลือกตั้ง ที่ประชาชนฝากความหวังไว้ เป็นเครื่องชี้วัดว่า จากนี้เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นได้หรือไม่ การเลือกตั้งจึงต้องเป็นการเลือกตั้งที่ได้รับความเชื่อมั่น ต้องปราศจากการซื้อเสียง การใช้อำนาจ ข้าราชการ ใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งต้องไม่เกิดขึ้น เพราะหากการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ จึงฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ควบคุมและจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ปล่อยให้เกิดการซื้อเสียง ไม่ปล่อยให้โกงการเลือกตั้ง

ส่วนผลการเลือกตั้ง หรือคะแนนนิยมจะมีทิศทางอย่างไรนั้นให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ไม่ใช่ไปเลือกเพราะรักใครหรือชอบใคร แต่ประชาชนต้องเลือกอนาคตว่า จะเลือกที่จะอยู่มีชีวิตอย่าง 4-5 ปีที่ผ่านมาว่าพอใจหรือไม่ หากไม่พอใจก็ต้องเลือกพรรคการเมืองฝั่งที่ไม่ต่อท่ออำนาจให้พลเอกประยุทธ์ อย่างถล่มทลาย