สลัดภาพไอดอล มารับเล่นละครพีเรียดครั้งแรก สำหรับ เฌอปราง อารีย์กุล หรือ เฌอปราง BNK48 ที่มารับบท “ลำจวน” เปลี่ยนลุคใหม่สวมชุดไทย พร้อมทำหน้าที่ถ่ายทอดศิลปะของไทยต่างๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เรียกว่าเป็นความท้าทายและได้เรียนรู้ใหม่ โดยละครเรื่อง “บุษบาลุยไฟ” ซึ่งกำลังออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20:15 น. ทางไทยพีบีเอส คือการหยิบยกเรื่องราวของผู้หญิงในประวัติศาสตร์ไทยจาก “บุษบาท่าเรือจ้าง” มาขยายความต่อถึงแนวคิดสตรีนิยมในยุครัชกาลที่ 3 ที่มักไม่มีใครพูดถึง
บุษบาท่าเรือจ้าง หรือ คุณพุ่ม เป็นธิดาของพระยาราชมนตรีบริรักษ์ (ภู่) เป็นกวีหญิงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีความสำคัญในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งมีความแตกต่างจากผู้หญิงในยุคต้นรัตนโกสินทร์ที่ต้องเรียบร้อยอยู่ในกรอบประเพณี แต่คุณพุ่มได้ร่ำเรียนเขียนอ่านจนถึงขั้นเป็นกวีฝีปากกล้าต่อกลอนสักวากับผู้ชายได้อย่างเด็ดเดี่ยวเชี่ยวชาญ เมื่อโตเป็นสาวก็เข้ารับราชการและสนิทสนมกับเจ้านายในวัง แต่ด้วยความที่เป็นคนรักอิสระเสรี ไม่ติดอยู่ในกรอบประเพณี จึงกราบถวายบังคมลากลับบ้านมาอาศัยอยู่ที่แพท่าพระ แต่ก็ยังมีเจ้านายผู้ชื่นชอบในบทกวี โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมาต่อกลอนกับคุณพุ่มอยู่เสมอ จนทำให้มีชื่อเสียงไปทั่วพระนคร
เรื่องย่อ
“บุษบาลุยไฟ” ละครอิงประวัติศาสตร์แห่งปีเกี่ยวกับสตรีผู้มีความคิดมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว แตกต่างจากสตรีร่วมยุคร่วมสมัยทั่วไปเมื่อเกือบ 200 ปีก่อน เป็นของสตรีผู้มาก่อนกาลข้ามผ่านอุปสรรคแห่งยุคสมัย ท้าทายขนบ
พุทธศักราช 2373-2374 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) “ลำจวน” (เฌอปราง BNK48) เป็นเด็กหญิงที่อยากเรียนหนังสือ ลำจวนฉลาดจดจำกลอนและแต่งได้ด้วยวิธีเลียนจากกลอนสุนทรภู่ที่เคยฟัง อยากเป็นนายโรงละครนอกแบบนายสุ่นผู้เป็นบิดา ขณะที่นวล และน้อยพี่ ๆ ผู้หญิงอยู่ในกรอบประเพณี หัดร้องรำ รอวันมีสามี
“ลำจวน” (เฌอปราง BNK48) พบ “ฮุน” (โทนี่ รากแก่น) หนุ่มจีนกำพร้าต่ำต้อยที่วัดสุวรรณาราม ฮุน อยากเป็นช่างเขียนศิษย์ “ครูทองอยู่” ผู้สูงส่งแต่พวกศิษย์รังเกียจกีดกัน “ครูคงแป๊ะ” ช่างเขียนที่ถูกมองเป็นคู่แข่งครูทองอยู่ จึงรับฮุนมาสอน ลำจวนสงสารที่ฮุนถูกกดขี่จึงสอนฮุนพูดไทยให้ชัด แต่เนตรพี่ชายลำจวนเข้าใจผิดจึงทำร้ายฮุนจนมือเจ็บ ส่วนลำจวนถูกจำกัดบริเวณไม่ให้มาวัดอีก
เรื่องราวความรักและความฝันของลำจวนและฮุนจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในละครเรื่อง บุษบาลุยไฟ บทประพันธ์และบทโทรทัศน์โดย ปราณประมูล กำกับการแสดงโดยผู้กำกับชั้นครู “พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ผู้กำกับ นักแสดง) ปี 2553
ละคร “บุษบาลุยไฟ” นำแสดงโดย เฌอปราง อารีย์กุล (เฌอปราง BNK48) ร่วมด้วย โทนี่ รากแก่น, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, กิก ดนัย จารุจินดา, พิม พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์, ลูกหว้า พิจิกา, ฟารีดา วัลเลอร์, มากิ มาชิดา สุทธิกุลพานิช, อติล่า อาร์เธอร์ อภิชาติ กานโยซ์, แพรว หัสสยา อิสริยะเสรีกุล, ภัทร นัตธนนท์ ปิ่นโรจน์กีรติ, พิม ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ และทัพนักแสดงอีกคับคั่ง
บทบาทของสตรีในประเทศไทยนั้นได้เพิ่มขึ้นกว่าในอดีตอย่างมากและพบว่า ผู้หญิงได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรก ๆ ในทวีปเอเชียที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงมีสิทธิเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2475อย่างไรก็ดี บทบาทด้านการพัฒนาชาติยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก ผู้หญิงยังคงมีบทบาทน้อยในการเมืองไทย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมาจากความตระหนักเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่ไม่เพียงพอและจากทัศนคติของสังคม
โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาต ให้วันที่ 1 สิงหาคม เป็น “วันสตรีไทย” และพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ “ดอกกล้วยไม้ คัทลียา ควีนสิริกิติ์” เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทย ตั้งแต่พุทธศักราช 2546 เป็นต้นมา
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก www.thaipbs.or.th , IG : cherprang.bnk48official