รองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ เข้ารับทราบข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังทำเว็บไซต์รายงานค่าฝุ่น พีเอ็ม 2.5 หวังดึงคนเข้าเพจพรรคไทยรักษาชาติ แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าแจ้งค่าฝุ่นไม่ตรงความจริง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน-ตื่นตระหนก
พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกนายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ในฐานะเป็นผู้ต้องหาในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) จากกรณีเรื่องค่าฝุ่นมลพิษพีเอ็ม 2.5 ที่ออกมาระบุว่า สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์แห่งหนึ่งผ่านเพจพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อหาว่าบริเวณพื้นที่ตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพมานครมีค่า PM 2.50 แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่เป็นจริงตามที่ได้ระบุไว้
โดยทางศูนย์ปราบปรามอาชาญากรรมทางเทคโนโลยี และ บก.ปอท. ได้ตรวจสอบจึงพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นมีนายฤภพ เป็นผู้ดำเนินการ จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อนทำการออกหมายเรียกเพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา
โดยขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อทำการสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนส่งให้พนักงานอัยการเป็นผู้สั่งฟ้อง ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งหรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดจะต้องรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ จากนั้น กกต. จะเป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป หากพบว่าไม่เป็นความผิดหรือไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดในช่วงเลือกตั้ง ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ใครทำผิดตามกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีทุกราย
สำหรับ มาตรา 14(2) ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มีใจความโดยสรุปว่า ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สำหรับนายฤภพ มีศักดิ์เห็นหลานของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ โดยนายฤภพเป็นบุตรชายคนโตของนายพายัพ ชินวัตร น้องชายคนเดียวของนายทักษิณ