รู้จัก “ตั้ว” ชุติมา กุมาร แกนนำภาคเหนือตอนล่าง “พรรคเพื่อชาติ” ดีกรีไม่ทำธรรมดาบ้านทำธุรกิจอัญมณี ใช่มีดีแค่สวย อาสาพารากหญ้า มีอยู่มีกิน
การเลือกตั้งชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในปีนี้ถือว่าคึกคักและสร้างสีสันเป็นอย่างมาก เพราะมีนักการเมืองหน้าใหม่ตบเท้าเข้าสู่สนามการเมืองกันอย่างคับคั่ง
โดยเฉพาะนักการเมืองสุภาพสตรี ที่แต่ละคนหอบเอาดีกรี ความสามารถ รวมถึงความสวยที่เข้าขั้นดารา – นางแบบ มาประชันกัน จนทำให้สีสันการ เลือกตั้ง62 ครั้งนี้คึกคักได้ไม่น้อย
วันนี้ทางทีมข่าว MThai จะขออาสาพาไปทำความรู้จักกับ ชุติมา กุมาร หรือ ตั้ว จาก “พรรคเพื่อชาติ” ที่มีความสวยไม่เป็นสองรองใคร รวมถึงโปรไฟล์ไม่ธรรมดา แต่พร้อมจะก้าวเข้ามาพาประชาชนคนรากหญ้าให้กินดีอยู่ดีขึ้น
เข้าสู่วงการการเมืองได้อย่างไร?
เข้าสู่วงการการเมืองจากการเป็นผู้ประกาศข่าวการเมืองช่องของฝ่ายประชาธิปไตย ตั้งแต่ people chanel, asiaupdate, udd, peace tv จากนั้นผู้ใหญ่ชักชวนให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อชาติ ตั้วก็ตอบรับทันที เพราะมันคือความฝัน
ทำไมถึงคิดอยากลงเล่นการเมือง?
มีความฝันตั้งแต่เด็กๆ เริ่มจากการเป็นผู้นำในกิจกรรมต่างๆเรื่อยมา ประกอบกับการได้เข้ามาเป็นพิธีกรผู้ประกาศข่าวสายการเมือง ทำให้ความฝันมันชัดขึ้น มีเป้าหมายชัดขึ้นว่า สักวันนึงเราจะต้องเป็นนักการเมืองให้ได้ แนวคิดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ตั้วทำรายการวงการนี้เมื่อ 2 ปีแรก จากนั้นก็พยายามทำงานพื้นที่ ลงพื้นที่เป็นระยะๆเพื่อเตรียมลงสู่สนามการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่พอผู้ใหญ่ชักชวนให้มาร่วมการเมืองระดับชาติ คือ พรรคเพื่อชาติ ตั้วดีใจมากและตอบรับทันที
ก่อนหน้านี้ทำงานอะไร?
ก่อนหน้าทำงาน2อาชีพ ควบคู่กันไปค่ะ งานประจำคือพิธีกรและผู้ประกาศข่าว ส่วนอาชีพเสริม คือ ค้าขายอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งเป็นอาชีพที่ตรงกับที่เรียนมา และเป็นธุรกิจของทางครอบครัวด้วย
เป็นคนที่ไหน?
เกิดและโตที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ค่ะ แต่อีกหนึ่งจังหวัดที่มีความผูกพันธ์คือ จ.จันทบุรี เพราะแม่เป็นคนที่นั่น และธุรกิจของครอบครัวก็อยู่ที่นั่นค่ะ
มีพี่น้องกี่คน เป็นคนที่เท่าไหร่?
มีพี่น้อง 2 คน (รวมตั้วด้วย) มีพี่ชาย ส่วนตั้วเป็นลูกคนเล็กค่ะ
บ้านประกอบธุรกิจอะไร?
ทั้งพ่อและแม่เป็นครูค่ะ พ่อเป็น ผอ.โรงเรียนที่ตั้วจบ ชื่อว่าโรงเรียนเมืองเชลียง ส่วนแม่ก็เป็นอาจารย์ที่นั่น และก็มีธุรกิจผลิตเครื่องประดับทองโบราณ และอัญมณีจันทบุรี ทำคู่ขนานกันไปค่ะ ทำตั้งแต่ตั้วลืมตาดูโลก
เรียนจบอะไรด้านไหนมา?
เพราะที่บ้านมีธุรกิจด้านอัญมณี แม่ก็เลยให้ลองไปสอบเกี่ยวกับสาขานี้ดูค่ะ ชื่อว่าสาขาวิชาวัสดุศาสตร์(อัญมณีและเครื่องประดับ ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ที่ดังที่สุดในประเทศ พอสอบได้ ก็ศึกษาจนจบ ได้วุฒิ วิทยาศาสตร์บัณฑิต (วท.บ.) มาค่ะ
สวยขนาดนี้มีหนุ่ม ๆ เร่ขายขนมจีบไหม และมีคนข้างกายรึยัง?
เรื่องคนข้างกายขออุบค่ะ แต่ก็มีคนเข้ามาจีบบ้าง ตามสไตล์คนหน้าตาดี555
มีนโยบายที่จะสู้กับพรรคอื่น?
นโยบายทางด้านเศรษฐกิจครัวเรือน หรือ Micro economics เป็นสิ่งที่ทางพรรคเพื่อชาติ ให้ความใส่ใจ ทั้งการผลักดันเบี้ยผู้สูงอายุ 2,000 บาทต่อราย หรือ การผลักดันให้แก้กฎหมายเรื่องที่ดินทำกิน มองดูอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ในความเล็ก ตั้วบอกเลยว่ามีความสำคัญมาก ตั้วโตมาจากต่างจังหวัด รู้ดีถึงความลำบากและวิธีการแก้ปัญหาปากท้องระดับครัวเรือนดี เมื่อทุกครัวเรือนอยู่ได้ สังคมหรือชุมชน จะเข้มแข็งเองคะ
จะช่วยเหลือเกษตรกรให้มีเงินเข้ากระเป๋าอย่างไร?
ราคาพืชผลทางการเกษตร เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อชาติ จะต้องยกระดับเรื่องราคาให้สูงขึ้นอยู่แล้ว แต่ทางพรรคให้ความสำคัญถึง ต้นทุนปัจจัยในการผลิต ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เครื่องจักรกลทางการเกษตร ปัจจุบันนี้ เครื่องจักรกลประเภท รถไถ รถบรรทุกเพื่อการเกษตร หรือยานพาหนะการเกษตรอื่นๆ จะมีการเสียภาษี เหมือนยานพาหนะทั่วไป
ซึ่งทางพรรคมองว่า การยกเลิกภาษีและยกเลิกค่าฤชาธรรมเนียมบางประเภท จะสามารถทำให้ราคาเครื่องจักรกลและยานพาหนะทางการเกษตร จะลดลง ส่งผลต้นทุนในการทำการเกษตร ลดลงทันที แค่เปลี่ยนวิธีคิดจากเดิม
มีนโยบายในใจที่อยากทำ?
นโยบายด้านการผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจความงาม เราต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมีแพทย์ มีผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ที่มีศักยภาพระดับโลก แต่ประเทศไทยกลับไม่ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แก่ชาวต่างประเทศ ตั้วยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้
ซึ่งสามารถประชาสัมพันธ์ด้านความสวยงาม จนนำเงินเข้าประเทศมากมายมหาศาลไม่ใช่แค่ธุรกิจศัลยกรรมความงามอย่างเดียว ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงามอื่นๆก็กลายเป็น Brand โด่งดังระดับโลกได้ ตั้วมองว่า คนไทยมี แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้อง และภาครัฐไม่ได้ขับเคลื่อนให้เป็นยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
อยากเห็นอนาคตประเทศไทย?
ตั้วอยากให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยเต็มใบเสียที เพราะประชาธิปไตยเป็นพื้นฐานของความเสมอภาค เท่าเทียม และมีเสรีภาพในความคิด
เด็กรุ่นใหม่ ตั้วมองเห็นหลายคนมีศักยภาพซึ่งก็มีหลายคนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อชาติ คนเหล่านี้ สังคมไทย ควรสร้างเวทีหรือเปิดโอกาสให้เค้าได้คิด วันนี้คนไทยควร ฟังและคิด ให้มากขึ้นกว่าเดิม สิบกว่าปีมานี้ เราผ่านอะไรมาเยอะ ตั้วขอโอกาสสักครั้ง ที่จะขอเป็นฟันเฟืองหนึ่ง ในการก้าวข้ามปัญหาต่างๆ และตั้วจะนำพาคนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาประเทศต่อไป ก็ต่อเมื่อตั้วได้รับโอกาสนั้นจากพ่อแม่พี่น้องค่ะ