“บุญประเสริฐ พู่พันธ์” เจ้าของเครปชื่อดัง N&Bเริ่มจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนคนทั่วไป ทำงานบริษัทสี แต่เมื่อพบกับวิกฤตเศรษฐกิจถูกลดเงินเดือน บวกกับใจที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ และคิดบวก เชื่อว่าวิกฤตก็ยังมีโอกาส ก็เริ่มค้นหาและไปพบขนมที่ชื่อว่า “เครป” ขายอยู่ที่สวนสยาม กลิ่นหอม น่าทาน จึงเกิดไอเดียทำธุรกิจจนมาเป็น แฟรนไชส์เครป รายใหญ่ รายแรกของเมืองไทย
เริ่มเรียนรู้วิธีทำเครปจนอร่อย ต่อมาก็หาทำเลขาย ก็ได้ห้างอิมพีเรียลเวิร์ด สำโรง ซึ่งยามปกติค่าเช่า 30,000 บาทต่อเดือน พอเกิดวิกฤตเศรษฐกิจร้านค้าหายหมด ทางห้างคิดค่าเช่าเหลือเพียง 8,000 บาท ถือว่าโชคดีเป็นโอกาสในวิกฤต “เพราะการเริ่มต้นธุรกิจถ้าค่าเช่าแพงขนาดนั้นเริ่มไม่ได้แน่ พอเปิดร้านก็ทำควบคู่กับงานประจำ ขายดีมากเพราะกลิ่นหอม จนลูกค้าต้องเดินตามกลิ่นเข้ามาซื้อ ที่สำคัญเราเลือกวัตถุดิบเกรดเอ ทั้งหมด “พอทานอร่อย” ลูกค้าก็จดจำเราได้
นอกจากนี้ผมเป็นนักเคมี ก็ชอบผสมโน่นผสมนี่อยู่แล้ว ก็ทดลองคิดสูตร คิดรสชาติใหม่ๆ ให้ถูกปากคนไทย ก็ได้สูตรรสน้ำพริกเผา ยำสาหร่าย ซอสพิซซ่า ชิกูว่า หมูหยอง แฮม ไส้กรอก ทูน่า แยมผลไม้ต่างๆ ก็มีทั้งมะม่วง แคนตาลูป เมื่อมีรสชาตใหม่ๆ คนชอบก็มีลูกค้าประจำ
จนในที่สุดยอดขายมากขึ้น คิดเพิ่มสาขาและก่อตั้งเป็นบริษัท เอ็น แอนด์ บี พิซซ่าเครป จำกัด ทำเป็นชื่อยี่ห้อ N&B เมื่อต่อยอดธุรกิจก็ทำแบบสุดๆ จึงศึกษาวิธีทำแฟรนไชส์ ด้วยเห็นว่า แบรนด์ต่างประเทศอยู่ได้ 30-40 ปี ไม่ว่าแบรนด์โดนัท หรือแบรนด์ไก่ทอด ทำไมเราจะสร้างแบรนด์ของคนไทยไม่ได้ ก็เร่งพัฒนาทุกด้าน เพิ่มเมนู มินิเครป กับไส้กรอกทวินที่ทำสำเร็จ หยิบขายได้เดี๋ยวนั้นแต่ใช้แป้งเครปแบบนุ่ม ลูกค้าก็ชอบไม่ต้องรอนาน
ไม่เพียงเท่านี้ “บุญประเสริฐ พู่พันธ์” ยังได้ขยายช่องทางธุรกิจไปยังงานจัดเลี้ยง ผลิตเป็นเซต ทั้งน้ำมาคู่กับเครปนุ่ม หรือไส้กรอกทวิน ยอดขายก็เพิ่มขึ้นภายหลังขยายสาขาด้วยตัวเอง 15 สาขา ทั่วกรุงเทพ ก็ต้องปรับตัว ตามความต้องการของห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง ที่ขายแต่พื้นที่ร้านขนาดใหญ่ 15-20 ตารางเมตร ไม่ใช่ขนาดซุ้ม หรือคิออสเล็กๆ
แต่ปัญหาคือเมื่อเราเน้นคุณภาพ และเสน่ห์ของเครปคือ ทำสด” ลูกค้าก็ได้เห็นลีลาว่าใส่อะไรลงไป ไม่ว่าสตรอเบอร์รี่ ปูอัด ได้กลิ่นขณะรอ ถือเป็นสิ่งดึงดูด แต่เราทำ ขายได้วันละ 500 ชิ้นเท่านั้น ก็เพียงหมื่นกว่าบาท เพราะใช้เวลาทั้งวันทำได้เท่านั้น ปริมาณแป้งเครปที่ใช้ก็อยู่ที่ทำเลจะไม่สต็อกเกิน 2 วัน
ทั้งนี้ถือเป็นวิกฤตอีกครั้ง ที่เราไม่สามารถหาพื้นที่เล็กๆขายเครปได้เหมือนเดิม ต้องทำตามห้างต่างๆที่ขายพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นส่วนมาก ขณะที่การขายลูกค้าต้องรอ แต่คนทานได้ประโยชน์จากเครปคุณภาพ สดใหม่ทุกวัน เมื่อยอดขายไม่พอกับค่าเช่าร้านพื้นที่ใหญ่ ก็ต้องเพิ่มเมนู มินิเครป กับใส่กรอกทวินที่ทำสำเร็จ หยิบขายได้เดี๋ยวนั้นแต่ใช้แป้งเครปแบบนุ่ม ลูกค้าชอบมาก พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องดื่มหลายอย่างเข้ามาในร้าน
นอกจากนี้ “เครปN&B”ก็จัดกิจกรรมบ่อยๆ ในช่วงเทศกาลญี่ปุ่น ก็มีหน้าพิซซ่าญี่ปุ่น หน้ายำสาหร่าย หน้าปูอัด ก็ปรับรสชาติไปตามเทศกาลต่างๆ เพื่อเป็นกิจกรรมทำการตลาดแล้ว ยังมีรสชาติหลากหลายตามเทศกาล ปรากฏว่า ยอดขายเพิ่มรับกับพื้นที่ได้ ก่อนจะมาเป็นแฟรนไชส์จากการเรียนกับกระทรวงพาณิชย์ ในปี2551 ก็ขายแฟรนไชส์ได้เป็นร้อยกว่า สาขา ในปี 2552 ยอดขายจึงเพิ่มจากเดิมที่สาขาของบริษัท N&Bทำได้ 8 ล้านบาท ต่อเดือน กลายเป็น 65 ล้านบาทต่อเดือน
อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่อยากเป็นเถ้าแก่ใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาพากเพียรค้นหาธุรกิจที่เหมาะสำหรับตนเอง ดูอย่าง บุญประเสริฐ พู่พันธ์ เจ้าของเครปชื่อดังผู้นี้ เพียงแค่รู้จักพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ความสำเร็จที่ได้ตั้งความหวังไว้ก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม…
ส.ศิริวาณิช
MThai News