เพื่อไทยปราศรัยใหญ่ที่อุดรธานี ประชาชนร่วมฟังกว่าหมื่นคน ‘สุดารัตน์’ วอนประชาชนเลือกเพื่อไทยยกจังหวัด
พรรคเพื่อไทย เปิดปราศรัยใหญ่ จ.อุดรธานี ที่บริเวณแพลตตินัม อ.เมือง โดยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี ทั้ง 8 เขตร่วมปราศรัย โดยบรรยากาศเวทีปราศรัยมีประชาชนมารับฟังการปราศรัยแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยกว่า 10,000 คน
โดยทันทีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึงเวที ประชาชนต่างส่งเสียงให้กำลังใจเข้ารุมล้อมพร้อมสวมกอดทั้งสองคน
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ปราศรัยว่า ตนเองมาพบประชาชนเพราะความคิดถึง โดยยืนยันพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะขอขึ้นราคาสินเกษตรภายใน 6 เดือน และจะมีสถาบันการเงินสร้างรายได้ประจำจังหวัด โดยปล่อยกู้ให้กับประชาชนได้ทำมาหากิน
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องประชานิยม แค่ชื่อพรรคเพื่อไทยพี่น้องประชาชนก็เลือกแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้เขาได้วางกลไกแปลกประหลาดที่สุด ตนเองยังไม่รู้จะได้เป็น ส.ส. หรือไม่ เพราะเขาต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเล็ก โดยออกแบบระบบเลือกตั้งให้พรรคที่ได้ ส.ส.เขตมากที่สุดแต่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อน้อยที่สุด
พร้อมทั้งออกแบบให้มี ส.ว. 250 คน ไม่ได้มาจากเลือกตั้งและมีอำนาจมากกว่า ส.ส. มีอายุ 5 ปี เลือกนายกฯ ได้ 2 ครั้ง 2 วาระอยู่ยาว 8 ปี ถือเป็นการเอาเปรียบล่วงหน้า ถ้าจะให้พรรคเพื่อไทยกลับไปทำงานพี่น้องต้องทำงานหนัก หากเลือกพรรคเพื่อไทยน้อย ก็อยู่กับลุงต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังขอให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะท่วมท้นถล่มทลาย ถ้าคะแนนพรรคเพื่อไทยน้อยแต่คะแนนไม่ท่วม ส.ว. 250 คน ก็ตัวใครตัวมันอยู่กับลุงต่อไป ดังนั้นพรรคเพื่อไทยคือ กุญแจออกจากความทุกข์และเลือกพรรคเพื่อไทยทุกเขตทั้งจังหวัด คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า วันที่ 24 มี.ค. เป็นโอกาสของประชาชนถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยไม่ถล่มทลายจะต้องอยู่กับ คสช. ต่อไป
ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ปราศรัยตอนหนึ่งว่า มาปราศรัยจังหวัดนี้เป็นพื้นที่ที่ 4 ที่ตนลงพื้นที่ และยอมรับว่าเป็นจังหวัดแรกที่มีประชาชนมาฟังแกนนำพรรคปราศรัยจำนวนมาก ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเคยร่วมประชุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะเป็น ผบ.ทบ. เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557
แล้วตนเองคือคนที่บอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งตามคำขอ จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 และบอกว่าขอเวลาอยู่ไม่นานแต่ก็อยู่มาถึง 4-5 ปี ทั้งนี้การเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าไม่เทให้พรรคเพื่อไทยถล่มทลายก็ไม่สามารถเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ พร้อมขอให้ช่วยกันเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องจำหมายเลขผู้สมัคร