ข่าวสดวันนี้ เก๋งชนร้านเฟอร์นิเจอร์

หนุ่มเมาขับเก๋งชนร้านเฟอร์นิเจอร์เสียหาย 80 ล้าน กราบเท้าขอขมาเจ้าของร้าน

หนุ่มขับรถเก๋งชนร้านเฟอร์นิเจอร์ก้มลงกราบเท้า เจ้าของร้าน เผย ไม่เคยโกรธและให้อภัยตั้งแต่วันแรก ส่วนเรื่องค่าให้จ่ายเท่าที่จะจ่ายได้ ความคืบหน้าคดีรถเก๋งเมาซิ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์บากกอกลิฟวิ่งมอลล์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเกิดไฟลุกไหม้รถรวมถึงลุกลามไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์และสินค้าเสียหายหมดทั้งร้านมูลค้าประมาณ 80 ล้านบาท ล่าสุดวันที่…

Home / NEWS / หนุ่มเมาขับเก๋งชนร้านเฟอร์นิเจอร์เสียหาย 80 ล้าน กราบเท้าขอขมาเจ้าของร้าน

หนุ่มขับรถเก๋งชนร้านเฟอร์นิเจอร์ก้มลงกราบเท้า เจ้าของร้าน เผย ไม่เคยโกรธและให้อภัยตั้งแต่วันแรก ส่วนเรื่องค่าให้จ่ายเท่าที่จะจ่ายได้

ความคืบหน้าคดีรถเก๋งเมาซิ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์บากกอกลิฟวิ่งมอลล์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเกิดไฟลุกไหม้รถรวมถึงลุกลามไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์และสินค้าเสียหายหมดทั้งร้านมูลค้าประมาณ 80 ล้านบาท

ล่าสุดวันที่ 23 ก.พ. ที่ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางพนักงานสอบสวนได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบกันเป็นครั้งแรกเพื่อเจรจาเรื่องค่าเสียหาย โดยนายพฤหัส แซ่จิว อายุ 26 ปี หรือแบงค์ ได้มาพร้อมกับพ่อและแม่ ซึ่งยังอยู่ในอาการบาดเจ็บมีผ้าพันแผลที่ใบหน้า คิ้วซ้าย จมูก และที่มือ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย โดยได้เตรียมดอกไม้มาขอขมาเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ด้วย

ทั้งนี้เมื่อนายอัชอารีย์ วันอับดุลเลาะฮ์ เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์เดินทางเข้ามายังห้องพนักงานสอบสวน และทั้งสองฝ่ายได้พบพบหน้ากันเป็นครั้งแรก ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกได้ยกมือไหว้ นายอัชอารีย์ เพื่อขอโทษ โดยเฉพาะนายพฤหัสกับนางนงลักษณ์ซึ่งเป็นแม่ ถึงกับทรุดตัวก้มลงกราบเท้านายอัชอารีย์และร้องไห้พร้อมกับกล่าวคำขอโทษตลอดเวลา

ในขณะที่ นายอัชอารีย์ ก็รับคำขอโทษและพยายามที่จะพยุงร่างของทั้งสองแม่ลูกขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และยังบอกว่าได้ให้อภัยตั้งแต่วันแรกแล้ว ไม่เคยถือโทษโกรธแค้น และความผิดพลาดทั้งหมดก็ได้เกิดขึ้นมาแล้ว และหาวิธีแก้กันต่อไป รวมถึงบอกให้นายพฤหัสและพ่อแม่ไม่ต้องเครียด ให้อภัยทุกคนด้วยความเต็มใจ และนายพฤหัสก็ได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิเพื่อแสดงความขอโทษด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ในขณะที่ นายพฤหัส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตัวเองเครียดมากทำอะไรไม่ถูก และที่ผ่านมาก็คิดที่จะมาพบและขอโทษแต่เครียดมากไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร และขออภัยทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างไร

นายอัชอารีย์ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องค่าเสียหายจำนวน 80 ล้านบาทนั้น ก็จะคุยกันก่อนว่าทางครอบครัวนี้มีความสามารถที่จะจ่ายได้แค่ไหน แล้วค่อยมาว่ากัน แต่คงจะให้จ่ายเท่าที่จะจ่ายได้ ส่วนเรื่องคดีแพ่งก็ต้องว่ากันอีกทีหลังจากที่ได้ข้อสรุป และมีประโยคหนึ่งที่นายอัชอารีย์บอกกับครอบครัวว่า เราอยู่ในโลกใบเดียวกันก็เหมือนอยู่บ้านเดียวกัน

ส่วนทางคดีพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดี นายพฤหัส ใน 2 ข้อหาคือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและจะคุมตัวส่งฟ้องศาลในวันจันทร์ ขณะที่นอกจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะมาพบและคุยกันเรื่องค่าเสียหายแล้ว ยังมีเจ้าของร้านเหล็กที่อยู่ติดกันซึ่งได้รับความเสียหายราว 1 ล้าน 5 แสนบาทได้มาเจรจาเรื่องค่าเสียหายด้วย