ศรีสุวรรณ พร้อมพยานหลักฐานได้นำข้อมูลดังกล่าวมายื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ดำเนินการสืบสวนไต่สวน กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลประวัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
วันที่ 25 ก.พ. 2562 เมื่อเวลา 10.00 น. ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชั้น1 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารB) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำข้อมูลกรณีมีการระบุประวัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่พบว่ามีการอ้างอิงประวัติเป็นถึงประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างปี 2551-2555 ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่มาอย่างยาวนานกว่า 5 เดือน และยังเชื่อมโยงไปยังเว็บ wikipedia จนประชาชนออกมาท้วงติง
นอกจากนี้ ยังมีสื่อมวลชนนำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่จนเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป จนกระทั่งมีการลบแก้ไขไปแล้ว โดยนายศรีสุวรรณพร้อมพยานหลักฐานได้นำข้อมูลดังกล่าวมายื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ดำเนินการสืบสวนไต่สวน เพื่อดำเนินการตามครรลองของกฎหมาย
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่เว็บไซด์ของพรรคอนาคตใหม่เผยแพร่ประวัติของนายธนาธร หัวหน้าพรรคว่าเคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ 2 สมัยทั้งที่ไม่เคยดำรงตำแหน่งดังกล่าวถือเป็นการอุปโลกน์ข้อมูลดังกล่าวขึ้น โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นแหล่งรวมสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจ อุตสาหกรรมทั้งประเทศนับแสนคน ใครมาเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมย่อมมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นที่รู้กันในภาคเอกชนว่าจะมีโอกาสได้รับเลือกให้ไปดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานของรัฐ หรือภาคเอกชนอื่นมากมาย การที่พรรคอนาคตใหม่นำเสนอว่าหัวหน้าพรรคเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศถึง 2 สมัยตั้งแต่ปี 2551-2555 จึงเป็นการหลอกลวงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เข้าใจผิดในข้อมูลข้อเท็จจริง
ในการยื่นคำร้องครั้งนี้ ยังมีการอ้างอิงถึงข้อกฎหมาย ว่าด้วยการแพร่ข้อมูลอยู่ในช่วงเวลาที่มีการประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เชื่อว่าอาจเป็นการจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ผู้ฝ่าฝืนอาจมีความผิดตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี
พร้อมกันนี้ ในวันเดียวกันนายศรีสุวรรณ จะยื่นให้ตรวจสอบกรณีนายปิยบุตร เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อ 18 ก.พ.62 ด้วยข้อความในลักษณะใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือไม่ด้วยว่า “รัฐจากส่วนกลางจับมือกับสื่อมวลชนบางกลุ่มผลิตสื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนอีสานเป็นคนตลก ไม่มีความรู้…” อันมีความผิดตามมาตรา 73 (5) ของ พรป.การเลือกตั้ง 2561 ด้วยเช่นกัน